เจ้าของธุรกิจขายเนื้อ ยอดขายหด เบนเข็มขายออนไลน์ เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย สู้วิกฤต

เนื้อวัวชั้นเลิศ คุณภาพเยี่ยม ลายสวยงาม มันแทรกซึมทุกพื้นผิว ที่ผ่านมา คงต้องไปลิ้มลองตามร้านอาหารชั้นนำ แต่ด้วยการปรับตัวสู้ภัยโควิดของ SMEs ผู้ไม่ยอมแพ้ นำเนื้อเกรดพรีเมี่ยมมาเสิร์ฟตรงถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์

ที่สำคัญ ขายในราคามิตรภาพ ช่วยให้คนรักเนื้อ ได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติ กลิ่นหอม อร่อยนุ่มลิ้นของเนื้อระดับพรีเมี่ยมได้ง่ายๆ ที่บ้านของตัวเอง

คุณกิตติปกรณ์ จีรวัฒน์ศุภโชค กรรมการผู้จัดการ บจก.ทรูบีฟ ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายเนื้อสัตว์ชำแหละและเนื้อสัตว์แช่แข็ง รวมถึง จำหน่ายเนื้อวัววากิว เนื้อออสเตรเลีย เนื้อโคขุน ระดับพรีเมี่ยม ผ่านช่องทางออนไลน์ ภายใต้แบรนด์ “kawa beef lover” เล่าว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขายส่งเนื้อวัวพอสมควร

เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าหลัก คือ ร้านอาหารรายใหญ่ชั้นนำ ต่างลดปริมาณคำสั่งซื้อ กระทบให้ยอดขายและรายได้น้อยลง จึงเกิดแนวคิดเพิ่มช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ ผ่านออนไลน์ ด้วยแฟนเพจเฟซบุ๊ก “kawa beef lover” เพื่อขยายตลาดและเจาะลูกค้าใหม่ มุ่งบริการกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบรับประทานเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยมโดยตรง

ด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงจำหน่ายเนื้อสัตว์ชำแหละและเนื้อสัตว์แช่แข็งอยู่แล้ว ทำให้มีแหล่งหาผลิตภัณฑ์เนื้อวัวโคขุน เนื้อวัวนำเข้า หลากหลายประเภท ได้แก่ ริบอาย สันนอก สันใน เนื้อบด เนื้อสไลซ์และหมูสไลซ์ พร้อมมาตรฐานกระบวนการผลิต ที่สด สะอาด ปลอดภัย ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนได้

นี่เป็นจุดแข็ง นำมาปรับใช้ ต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์ได้เป็นอย่างดี สามารถจัดโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ซื้อ 6 แพ็ก แถม 1 แพ็ก หรือจัดเป็นเซตรวมเนื้อหลายประเภทไว้ในชุดเดียว เหมาะสำหรับครอบครัวตอบโจทย์ลูกค้าเลือกเพื่อซื้อนำไปประกอบอาหารได้ตรงตามความต้องการ โดยมีราคาเริ่มต้น 169-699 บาท

จุดเด่นของสินค้า คือ การคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัววากิว เนื้อออสเตรเลีย หรือเนื้อโคขุน มาจำหน่ายให้กับลูกค้า ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย กำหนดเป็นมาตรฐานว่าสินค้าของเราต้องตอบโจทย์และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

จากความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัท ที่มีการรีวิว บอกต่อ และสั่งซื้อซ้ำของลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีบริการขนส่งรวดเร็วและประหยัด ใช้ชื่อว่า “KawaNextDay” หมายถึง จัดส่งสินค้าในวันถัดไป ด้วยพนักงานของเราเอง ทำให้ลูกค้ารับสินค้าที่รวดเร็วในราคาขนส่งที่ไม่สูงเกินไป กำหนดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดค่าส่งเริ่มต้นที่ 60 บาท ส่วนต่างจังหวัด ขนส่งด้วยรถควบคุมอุณหภูมิ คิดตามน้ำหนักสินค้าและระยะทาง

คุณกิตติปกรณ์ เล่าต่อว่า กลุ่มลูกค้าของเราส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ “Work from home” รวมถึง กลุ่มครอบครัวที่ชื่นชอบรับประทานเนื้อวัว เลือกซื้อสินค้า ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “kawa beef lover” ไปประกอบอาหารเมนูต่างๆ เช่น สเต๊กเนื้อ, ปิ้งย่าง, ชาบู รวมถึงอาหารไทย กะเพราเนื้อ แกงเขียวหวานเนื้อ เป็นต้น

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก แต่ก็ช่วยให้เรากล้าตัดสินใจและปรับตัวอย่างรวดเร็ว หันมาทำตลาดออนไลน์ เจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย จากเดิมที่เรามีธุรกิจหลักที่เป็นรายใหญ่เท่านั้น ซึ่งช่วยให้เราสามารถประคับประคองธุรกิจ และรักษาการจ้างงาน ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและมีทิศทางที่ดีขึ้น ก็จะช่วยให้เราสามารถขับเคลื่อนธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เอสเอ็มอีหัวใจแกร่ง กล่าว

นอกจากนั้น ยังได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank นอกจากสนับสนุนให้เราเข้าถึงแหล่งเงินทุน มีสภาพคล่องนำมาบริหารจัดการธุรกิจแล้ว ยังส่งเสริมการเติมความรู้ด้านต่างๆ เช่น การขายสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ ถือเป็นการเพิ่มทักษะให้กับผู้ประกอบการมีช่องทางการตลาดใหม่ๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อถามถึงแผนธุรกิจในอนาคต หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายสามารถควบคุมได้ดี ก็จะเดินหน้าพัฒนายกระดับธุรกิจ สร้างแบรนด์ “kawa beef lover” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อสื่อถึงความหมายของคำว่า “kawa” ในภาษาญี่ปุ่น ที่แปลว่า “แม่น้ำ” จะยกระดับเนื้อวัวของเราสู่กระแสแม่น้ำแห่งความอร่อยพัดไปสู่ผู้บริโภค

พร้อมกับขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าออฟไลน์ควบคู่ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตรงความต้องการ รวมทั้งวางแผนเปิดร้านอาหารให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสรสชาติเนื้อวัวระดับพรีเมี่ยมได้อีกด้วย