“สุนัข” ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ 4 เท้า ที่จงรักภักดี และรักเจ้าของแบบถวายชีวิตให้เลย ซึ่งบรรดาผู้ที่ทำธุรกิจประเภทฟาร์มขายสุนัขก็สรรหาพัฒนาสายพันธุ์สุนัขขึ้นมาเรื่อยๆ อาทิ สุนัขตัวจิ๋ว หรือ T Cup ส่วนใครที่ชอบสุนัขตัวใหญ่ ต้องยกให้สุนัขสายพันธุ์ “คอเคเซียน เชพเพิร์ด” (Caucasian Shepherd) เพราะเจ้าตูบสายพันธุ์นี้มีน้ำหนักตัวหลักร้อยกิโลกรัม นิสัยฉลาด ไหวพริบดี ไอคิวสูง หูไวตาไว กล้าหาญ ซื่อสัตย์ สู้ยิบตา

คุณพักตร์วิมล ทองทา หรือ คุณบี เจ้าของร้าน asiapuppy นำเข้า-ส่งออก สุนัขหายากกว่า 60 สายพันธุ์ เช่น ทิเบตัน มาสติฟ, เซนต์เบอร์นาร์ด, นโปเลี่ยน มาสติฟ, พูลี่, เซ็นทรัลเอเชีย, นิวฟันด์แลนด์, เกรทเดน, เคน คอร์โซ่, อลาสกัน มาลามิวต์, เชาว์ เชาว์, รัฟ คอลลี่, บูลด็อก, ฟิล่า บราซิเลียโร ฯลฯ เอาใจคนรักสุนัขสายพันธุ์ใหญ่บางสายพันธุ์ มีคุณบีนำเข้าแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทย

คุณบี อยู่ในแวดวงธุรกิจซื้อ-ขายสุนัขมายาวนาน เธอเล่าว่า ครอบครัวของเธอทำฟาร์มสุนัขมาก่อนอยู่ที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จตุจักร โดยเปิดร้านจำหน่ายสุนัขนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลักเกือบทุกสายพันธุ์ ทั้งเล็กและใหญ่ แต่ระยะหลังจากที่ตัวเองลงมาทำอย่างเต็มตัว ชอบที่จะนำเข้าสุนัขสายพันธุ์ที่ตัวใหญ่มากกว่า เพราะเป็นคนชอบสุนัขตัวใหญ่มากกว่าสุนัขตัวเล็ก

นอกจากหญิงสาวจะชอบสุนัขตัวใหญ่ อีกสาเหตุที่เลิกทำฟาร์ม เธอให้เหตุผลว่า การทำฟาร์ม เจ้าของต้องให้เวลาดูแลเอาใจใส่ประคบประหงมลูกสุนัขด้วยตนเอง ซึ่งส่วนตัวเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เลยมองว่านำเข้า-ส่งออก เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

หลักการนำเข้าสุนัข คุณบีจะเลือกจากความต้องการของลูกค้า ความสามารถในการเลี้ยง สภาพครอบครัว สภาพที่อยู่อาศัย มีพื้นที่บริเวณเลี้ยงเพียงพอหรือไม่ รวมถึงงบประมาณ สุนัขทุกตัวหญิงสาวจะเดินทางไปคัดสุนัขด้วยตัวเอง ผ่านการสกรีนแล้วสกรีนอีก และจากการที่เธอบินไปดูและนำเข้าสุนัขเอง โดยไม่ผ่านคนกลาง ดังนั้น ราคาจึงถูกมากเมื่อเปรียบเทียบคุณภาพของสุนัข และจะถูกกว่าการที่ลูกค้าสั่งนำเข้าเอง

สำหรับราคาสุนัขของร้าน asiapuppy ขึ้นอยู่กับสายเลือด สายพันธุ์ และรูปลักษณ์ โดยเริ่มจำหน่ายลูกสุนัขอายุ 60 วันขึ้นไป ราคามีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน 80 เปอร์เซ็นต์ นำเข้าทั้งทวีปยุโรป อีก 20 เปอร์เซ็นต์ นำเข้าจากเอเชีย ยกตัวอย่างเช่น สายเลือดแชมป์ฮังการี คอเคเซียน เชพเพิร์ด ราคาหลักล้านบาท

“บีนำเข้าสุนัขจากต่างประเทศหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน จีน ทิเบต บางพันธุ์ในเมืองไทยก็ยังไม่มีใครกล้านำเข้า ตัวอย่างเช่น คอเคเซียน เชพเพิร์ด asiapuppy นำเข้ามาเป็นเจ้าแรก และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่ง พ.ศ. นี้ต้องยกให้กับสุนัขสายพันธุ์นี้ที่มาเรงสุดๆ”

สำหรับ “คอเคเซียน เชพเพิร์ด” คุณบีให้รายละเอียดว่า เป็นสุนัขที่สูงใหญ่ โตเต็มวัยน้ำหนักเฉียด 100 กิโลกรัม กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ขนหนาแต่ขนไม่ร่วง น้ำลายไม่เยอะ กลิ่นปากไม่แรง ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี กินไม่จุ ไม่กินจุกจิก รักสะอาด ไม่บ้าพลัง ไม่กระโจนใส่เจ้าของ ถ้าได้สัมผัสจะรู้ว่าสุนัขพันธุ์นี้น่ารักไม่แพ้สุนัขพันธุ์ไหนๆ

ส่วนลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้ ฉลาด สุขุม ไหวพริบดี ตาหูไว กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ไม่อืดอาด ถ้ารู้สึกว่าเจ้าของจะถูกทำร้ายจะลุกขึ้นมาปกป้องทันที สู้ยิบตาไม่มีถอย ด้วยจุดเด่นเหล่านี้เหมาะจะเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านมาก นิยมเลี้ยงสุนัขเพศผู้มากกว่าเพศเมีย อายุเฉลี่ย 12-16 ปี

ตัวนี้พันธุ์ทิเบตัน มาสติฟ

เนื่องจากเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ คุณบีนำเข้าสุนัขพันธุ์ใหญ่ ถามถึงความเหมาะสมต่อการเลี้ยงในภูมิอากาศเมืองไทย หญิงสาว ระบุว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเข้ากับทุกสภาพแวดล้อมได้ดี ยิ่ง “คอเคเซียน เชพเพิร์ด” เห็นตัวใหญ่ ขนหนา แต่ข้อดีคือ ปรับตัวได้ง่าย ไม่ต้องอยู่ในห้องแอร์ตลอด หรือพื้นที่กว้างๆ เพียงแต่ผู้เลี้ยงควรนำสุนัขไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ

“คอเคเซียน เชพเพิร์ด เป็นสายพันธุ์เก่าแก่เช่นเดียวกับพันธุ์โมโลสเซอร์ เริ่มแรกถูกเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องบ้านเรือน ไร่นา และทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังถูกพาโชว์ตัวตามงานต่างๆ เริ่มปรากฏตัวในงานโชว์ในปี ค.ศ. 1930 ที่ประเทศเยอรมนี”

สำหรับจำนวนสุนัขสายพันธุ์ “คอเคเซียน เชพเพิร์ด” ในเมืองไทยมีประมาณ 100 ตัว เป็นการนำเข้ามาเลี้ยงไม่ใช่เพื่อการค้า แต่ในส่วนของการนำเข้ามาเพื่อการค้า asiapuppy เป็นเจ้าแรก ด้านราคาอายุ 2 เดือน ราคาขายอยู่ที่ 85,000 บาท แต่ถ้าเป็นสายเลือดแชมป์จากฮังการีที่คุณบีเลี้ยงอายุ 2 ขวบ ราคา 1 ล้านบาท

เนื่องจากปัจจุบันสุนัขพันธุ์ใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้น แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูงก็ตาม กลุ่มลูกค้าจึงเป็นกลุ่มตลาดบน โดยลูกค้าประเภทนี้จะเลือกซื้อจากฟาร์มที่มีชื่อเสียงเท่านั้น เพราะต้องการได้สายพันธุ์แท้ ซึ่งสุนัขทุกตัวของทาง asiapuppy มีใบเพ็ดดีกรี ( pedigree) หรือ ใบประวัติรับรอง

ปัจจุบัน สุนัขสายพันธุ์ “คอเคเซียน เชพเพิร์ด” ยังไม่มีการเพาะพันธุ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้ามากกว่า วัตถุประสงค์หลักเลี้ยงเพื่อเฝ้าบ้าน เฝ้าทรัพย์สิน และเป็นเพื่อนกับเด็ก กับครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เลี้ยงสุนัขไม่ควรรักสุนัขในยามที่น่ารัก น่าเอ็นดูเท่านั้น เพราะสุนัขเมื่อแก่ชราลง ก็ย่อมต้องการความรัก ความเอาใจใส่ แต่ก็มักเห็นว่ามีคนเอาสุนัขไปปล่อยตามวัด ตามสถานที่ต่างๆ ให้กลายเป็นภาระสังคม  หรือที่เรียกว่า “หมาจรจัด” อยู่บ่อยๆ ฉะนั้นหากยังไม่พร้อม ก็ไม่ควรเลี้ยง หรือถ้าคิดจะเลี้ยงแล้ว ไม่ควรนำสุนัขไปปล่อย