หลายปีก่อน หญิงนุ่น – ม.ร.ว.สุทธิภาณี ยุคล ธิดาของ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ลงทุนกับหุ้นส่วนชีวิต คุณกี้ – รณิษฐา จริตกูล เปิดร้านอาหารสไตล์โฮม คุกกิ้ง ชื่อ Garden of Dream  ในซอยสุขุมวิท 51 ควบคู่กับทำงานประจำ สายโฆษณาและการตลาด

กระทั่งสัญญาเช่าร้านหมดลง จึงหารือกัน หากทำต่ออาจต้องรีโนเวตใหญ่ ซึ่งต้องลงทุนอีกมาก เลยตกลงใจ ปิดหน้าร้านในซอยสุขุมวิท 51

หญิงนุ่น – ม.ร.ว.สุทธิภาณี ยุคล (คนแรก)

และหันมาใช้ครัวของบ้านพักย่านสุทธิสาร เป็นสถานที่ผลิตอาหารไดเอต ส่งให้ลูกค้าถึงที่ ภายใต้ชื่อเรียก  My Happy Diet (มาย แฮปปี้ ไดเอต)

ล่าสุด คุณกี้ ถูกทาบทามไปเป็นที่ปรึกษาให้กับร้านอาหารหลายแห่ง ส่วนตัวหญิงนุ่น เอง ช่วงนี้กลับไปทำงานประจำด้านการตลาดกับเจ้านายเก่า ธุรกิจทำอาหารไดเอตจึงต้องชะงักลงด้วยเรื่องของเวลา

ทว่า ยังมีลูกค้าประจำ ทั้งจากร้านเดิมและจากอาหารไดเอต ถามไถ่และเรียกร้องเข้ามาตลอดว่าเมื่อไหร่จะได้ทานอาหารอร่อยๆ จากฝีมือเชฟกี้สักที

หุ้นส่วนทั้งสองจึงหารือกัน น่าจะใช้เวลาว่างช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ทำในสิ่งที่ถนัด และยังมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งถามหาอยู่

   คุณกี้ (ซ้ายสุด)

“เพราะความฝันของเราไม่มีที่สิ้นสุด ถึงจะปิดร้านที่สุขุมวิทไปแล้ว แต่เชฟกี้ยังอยากใช้เวลาวันเสาร์ – อาทิตย์ มาสร้างความสุขให้กับลูกค้าต่อ เลยเป็นที่มาของ Garden of Dream : The Private Kitchen”หญิงนุ่น เริ่มต้นเล่าให้ฟัง

ก่อนบอกต่อ ถึงแนวคิดการให้บริการ  จะเปิดบ้านของเราให้ลูกค้าที่สนใจจองเข้ามา
โดยจะเปิดเฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์ รับแค่ครั้งละ 1 โต๊ะเท่านั้น จำนวนคน อยู่ระหว่าง 4-12 คน

สำหรับเมนูในวันนั้นๆ  ลูกค้าอยากทานอะไร ให้แจ้งล่วงหน้า ทางเชฟกี้จะเตรียมอาหารที่ลูกค้าชอบไว้ให้ โดยเน้นจุดเด่นที่วัตถุดิบไร้สาร อะไรทำเองได้ จะเป็น Home cook ทั้งหมด เพื่อลูกค้าจะได้ทานของอร่อยที่ไม่ทำร้ายร่างกาย

“ลูกค้าสามารถบอกได้ว่าอยากทานอาหารประเภทไหน วัตถุดิบอะไรบ้าง จากนั้นจึงจะทำลิสต์รายการอาหารและใบเสนอราคาส่งกลับคืนไปให้เพื่อเป็นการยืนยัน เมื่อถึงวันนัด เรายกบ้านให้ 1 วัน เพื่อต้อนรับลูกค้าที่จองเข้ามาเพียงหนึ่งกลุ่มหนึ่งโต๊ะ และเปิดรับเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เชฟมีเวลาว่างเท่านั้น” หญิงนุ่น บอกยิ้มๆ

เกี่ยวกับจุดเด่นของอาหาร “โต๊ะเดียว” สไตล์เชฟกี้-หญิงนุ่น นี้  เน้นจุดเด่นที่วัตถุดิบไร้สาร ส่วนใหญ่เป็น Home cook ทั้งหมด เพื่อลูกค้าจะได้ทานของอร่อยที่ไม่ทำร้ายร่างกาย

ส่วนงบประมาณค่าใช้จ่ายรายท่าน เฉลี่ยอยู่ที่ท่านละ 700-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและวัตถุดิบที่ลูกค้า        รีเควสท์มาด้วย

“เปิดจองครั้งแรก เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีคิวยาวนานเป็นเดือนเลย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ คนรู้จักกัน ซึ่งบอกกันไปแบบปากต่อปาก” เจ้าของกิจการ อารมณ์ดี บอกอย่างนั้น

ก่อนแจง ร้านอาหารสไตล์หญิงนุ่นนี้  อย่าคาดหวังว่าเหมือนร้านอาหารทั่วไป ที่มีเด็กเสิร์ฟคอยบริการ หรือสั่งเหล้า สั่งไวน์ ได้ตลอด เพราะบรรยากาศจะเหมือนการมาทานข้าวบ้านเพื่อนมากกว่า แต่ถ้าจะให้ดี อยากให้มากันแต่เนิ่นๆ มาดูการจัดเตรียมอาหารว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แถมให้ “แอบดู” สูตรการทำได้ แบบไม่หวง

“แนวคิดธุรกิจขายอาหารแบบโต๊ะเดียวที่บ้านนี้ กำไรดีกว่าร้านอาหาร เพราะมีต้นทุนตายตัวที่ต่ำกว่า ซึ่งในต่างประเทศนิยมทำกันมาพักใหญ่แล้ว  ซึ่งแต่ละที่จะมีเอกลักษณ์หรือจุดขายของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจแบบนี้ ถ้าเทียบกับการส่งอาหารแบบดีลิเวอรี่แล้ว คงขยายตัวได้ยาก เพราะเจาะกลุ่มนีช มาร์เก็ต มากกว่า” หญิงนุ่น บอก

“ถ้าอยากทำร้านอาหาร ได้เงินเยอะ มีวอลุ่มสูง ตอนทำดีลิเวอรี่ มีโอกาสมากกว่า แต่เรามีเป้าหมาย คือ ความสุขกับงานที่ทำมากกว่าเม็ดเงิน ร้านสไตล์ล่าสุดนี้ จึงเป็นการทำงานแบบสนองใจ ที่อยากมีร้านอาหารแบบโฮมคุกเต็มรูปแบบ ใช้วัตถุดิบที่ทำเองปลูกเองทุกอย่าง

และหากลูกค้าอยากมาเข้าครัวกับเรา ยินดีต้อนรับนะคะ ใครสนใจ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
โทรมาได้เลยค่ะ ขั้นต่ำ 4 ที่ สูงสุด 12 ที่ค่ะ โทรศัพท์  (099) 979-2963 Line id: noonyukol หญิงนุ่น ฝากไว้อย่างนั้น