จองวงดนตรีที่ชอบแบบถูกลิขสิทธิ์ ด้วย มายแบนด์ แพลตฟอร์มเจ๋งๆ จากสตาร์ตอัพไทย

หากจะพูดกันเรื่องของ ลิขสิทธิ์ นับว่าเป็นอะไรที่ถูกให้ความสำคัญค่อนข้างน้อยและยังมีข้อบกพร่องในหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะกับ วงการเพลง ในฝั่งบ้านเราแล้ว การจะหยิบเอาเพลงสักเพลงหนึ่งขึ้นมาร้อง โดยคนที่ไม่ใช่เจ้าของเพลง หรือที่เรียกว่า การคัฟเวอร์ (Cover) หรือจะเป็นการจ้างวงดนตรีอิสระสักวงไปแสดงสดก็ดี ก็มีเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ประเด็นนี้แทบจะไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเลยทีเดียว จึงอาจทำให้ผู้ว่าจ้างหรือนักดนตรีที่ไม่ใช่เจ้าของเพลง มีสิทธิ์โดนฟ้องร้องในเรื่องนี้ได้

ซึ่งจุดนี้เอง ที่ทำให้ คุณก้อง-กรรณ ศิราพัฒน์ วัย 38 ปี ปิ๊งไอเดียทำแพลตฟอร์มเจ๋งๆ ที่ชื่อว่า มายแบนด์ (MYBAND) ขึ้น โดยเขาเล่าถึงที่มาที่ไปให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า มายแบนด์ ถูกก่อตั้งมาจากคุณก้องและกลุ่มเพื่อน ที่ได้ทำงานคลุกคลีกับวงการดนตรีมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งเขาเรียนจบและได้ไปทำงานในด้านวงการเพลงที่บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่ง และได้พบเห็นว่า ในวงการเพลงนี้ มักมีปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์หลากหลายกรณี จึงเกิดความคิดที่ว่า ถ้ามีอะไรแก้ปัญหาตรงนี้ได้ คงดีไม่น้อย

“จากที่ทำงานมาในฐานะผู้จัดงานและนักดนตรีกว่า 10 ปี ผมก็เห็นว่ามันมีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์ค่อนข้างเยอะเลย ในวงการนี้ เลยอยากทำเกี่ยวกับการจองวงดนตรีแบบถูกลิขสิทธิ์ จะได้แก้ปัญหาให้ทั้งตัวศิลปินและผู้ว่าจ้าง เพราะบางทีผู้ว่าจ้างมีงบประมาณในการจ้างงานศิลปินเจ้าของเพลงอย่างจำกัด ก็ต้องวางแผนการจ้างอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันคือยุ่งยากในการหาวงดนตรีที่เหมาะกับงานที่ค่อนข้างน่าปวดหัวเลยนะ ไหนจะการทำเอกสารและวิธีชำระเงินที่ไม่สะดวกอีก กับ 2 เป็นกรณีที่นักดนตรีมาสาย เบี้ยวงาน หรือเปลี่ยนตัวนักร้อง ทำให้งานล่ม ผู้ว่าจ้างก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบตรงนี้อยู่ฝ่ายเดียว และข้อสุดท้ายคือ ลิขสิทธิ์เพลง ที่บ้านเรายังแก้ไม่ได้ จะเจอบ่อยที่บริษัทต้องการจัดงานตามห้าง จ้างวงดนตรีที่ไม่มีใบอนุญาตมาเล่น ซึ่งอาจโดนเรื่องของลิขสิทธิ์ย้อนหลังได้ มันต้องแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง เลยเกิดเป็นมายแบนด์ขึ้น ตอนนี้เราเปิดให้บริการมาครบ 3 ปีแล้วครับ” ผู้ก่อตั้งมายแบนด์ เผย

ซึ่งมายแบนด์จะเข้ามาช่วยทำให้การจ้างงานวงดนตรีเป็นเรื่องง่ายและถูกลิขสิทธิ์ โดยที่ผู้ว่าจ้างไม่ต้องกังวลใดๆ อีกทั้งทำให้ศิลปินเข้าถึงการจ้างงานมากขึ้น เรียกว่า win-win กันทุกฝ่ายเลยทีเดียว

“เราให้บริการทั้งจ้างไปเล่นงานแต่ง ปาร์ตี้ อีเว้นต์ต่างๆ ที่ครอบคลุมลิขสิทธิ์เพลงมากกว่า 10 ล้านเพลง ทั้งไทยและต่างประเทศ เรามีศิลปินที่เข้าร่วมกับเรากว่า 800 วง มีทุกแนวตั้งแต่ศิลปินในตำนานไปจนถึงศิลปินรุ่นใหม่ๆ นอกจากนั้นวงดนตรีภายในสังกัดเราสามารถเล่นเพลงข้ามค่ายได้ด้วย ซึ่งเมื่อจบงาน เราก็จะชำระค่าลิขสิทธิ์ผ่านระบบหลังบ้าน ซึ่งเป็นการชำระให้กับทางเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรง ผ่านองค์กรจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่จะนำไปจ่ายให้นักแต่งเพลง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นช่องทางช่วยสร้างรายได้และสนับสนุนนักแต่งเพลง ศิลปินโดยตรงช่องทางหนึ่ง” คุณก้อง กล่าว

แต่กว่าจะมาเป็นมายแบนด์ในทุกวันนี้ คุณก้อง เล่าว่า พบเจออุปสรรคไม่น้อย ทั้งขั้นตอนการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ ที่ต้องมีการติดต่อจัดการกันภายใน การทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ อีกทั้งการหาฐานลูกค้า ซึ่งแต่ละรายมักมีงบประมาณค่อนข้างจำกัด

“จุดแข็งของมายแบนด์คือเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ผมคิดว่ายังไม่มีใครสามารถมาสู้ได้ แล้วเราใช้ทุนในการทำผลิตภัณฑ์ อย่าง การทำมาร์เก็ตติ้งค่อนข้างน้อย ทำให้สามารถขยับไปจัดการเรื่องลิขสิทธิ์ได้เต็มที่ ซึ่งเรามีการจัดการแบบงานต่องาน เมื่อเกิดการจ้างงาน จึงเกิดการจัดทำให้ ซึ่งมายแบนด์เพียงเข้ามาช่วยจัดการปัญหาตรงนี้ และมีส่วนแบ่งรายได้จากคู่ค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง”

“ช่วงโควิดก็ได้รับผลกระทบ มีงานเข้ามาน้อยลง ก็เป็นโอกาสให้เราได้กลับมาพัฒนาตัวเอง ขยายกลุ่มลูกค้า เพราะยังมีอีกหลายกลุ่มที่เรายังไม่ได้เข้าไปเล่นด้วย อย่าง ผับ บาร์ อะไรพวกนี้ แล้วผมก็มีแผนจะขยายกลุ่มศิลปิน จัดการระบบฝั่งศิลปินให้ชัดเจน และการจัดการลิขสิทธิ์เพลงให้มากขึ้น”

เรตราคามีหลากหลาย หากใครสนใจ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ www.mayband.co.th หรือ เฟซบุ๊ก MyBandThailand

เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2563