ดังเปรี้ยงปร้าง ลา เบลล่า รองเท้าสัญชาติไทย เปิดตัว 1 ปี ทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน

ดังเปรี้ยงปร้าง ลา เบลล่า รองเท้าสัญชาติไทย เปิดตัว 1 ปี ทำรายได้ทะลุ 100 ล้าน

เมื่อการพัฒนาของเทคโนโลยีทำให้การติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องง่าย การทำธุรกิจ ก็เปิดกว้างขึ้นเช่นกัน โดยผู้ประกอบการหันมาทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด ไพรซ์ซ่า (Priceza) ได้มีการคาดการณ์ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2020 ว่า มูลค่าจะพุ่งแตะถึง 220,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาช็อปปิ้งสั่งสินค้าทางออนไลน์กันมากขึ้น

ซึ่ง ลา เบลล่า (LA BELLA) แบรนด์รองเท้าแฟชั่นที่สวมใส่สบายตามหลักสรีรศาสตร์ของเท้า ก็เป็นธุรกิจหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยมี ดร.บรินดา แฮนเซ่น นักธุรกิจออนไลน์เจ้าของฉายา เจ้าแม่เฟซบุ๊กของเมืองไทย และ คุณพิรีพรรณ อนุพงษ์ไพบูลย์ นักธุรกิจสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการเครื่องหนังมากว่า 10 ปี เป็นผู้ก่อตั้ง

ดร.บรินดา แฮนเซ่น และ คุณพิรีพรรณ อนุพงษ์ไพบูลย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ลา เบลล่า

“เราเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นเมื่อปี 2018 จากประสบการณ์ที่เราอยู่ในธุรกิจออนไลน์มานาน เรารู้ว่าในยุคนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก การสร้างแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ แบรนด์ที่ดีจะต้องเริ่มต้นจากการสร้างสินค้าที่ดี มีคุณภาพอย่างแท้จริง และสร้างกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพื่อเสริมสร้างมูลค่าของแบรนด์ ให้ลูกค้ามั่นใจ หากเรามีสินค้าที่ดีที่เป็น Winning Product อย่างแท้จริง ควบคู่กับกิจกรรมการสร้างแบรนด์ที่ดีแล้ว ธุรกิจจะเติบโตได้เร็วมากเพราะตลาดออนไลน์ในยุคนี้ลูกค้ามีความพร้อมที่จะซื้อสินค้าอย่างแท้จริง” ดร.บรินดา กล่าวถึงจุดเริ่มต้น

ลา เบลล่า ถือเป็นแบรนด์รองเท้าแฟชั่นเจ้าแรกของเมืองไทย ที่ผสมผสานความงดงามทางแฟชั่นและหลักสรีรศาสตร์เท้าของรองเท้าสุขภาพเอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่โครงรองเท้าที่ผลิตให้เป็นแบบซอฟต์ คุชชั่น (Soft Cushion) ด้วยเทคนิคการบุคุชชั่นด้านใน ทำให้เวลาสวมใส่แล้วนุ่มสบายเท้า แม้คนเป็นโรครองช้ำก็สามารถสวมใส่ได้ เพราะมีการบุพื้นด้านในให้หนาพิเศษถึง 5 มิลลิเมตร

รวมถึงส้นรองเท้าดีไซน์พิเศษแบบ Body Weight Distribution สำหรับรองรับน้ำหนักบริเวณอุ้งเท้า และยังช่วยกระจายน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี จึงทำให้สามารถเดินได้เป็นระยะเวลานาน แม้เดินวันละเป็นหมื่นก้าวในเวลาที่ต้องไปต่างประเทศ อีกทั้งวัสดุที่ใช้ยังผลิตจากหนังลูกแกะจึงทำให้รองเท้ามีสัมผัสนุ่มสบายกว่ารองเท้าทั่วไป ประกอบกับการออกแบบหน้าเท้าที่มีความยืดหยุ่น เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่รู้สึกบีบเท้า และเท้ายังดูเรียวสวย ทางแบรนด์ยังเพิ่มการบุคุชชั่น (Soft Cushion) บริเวณด้านหลังเพื่อลดการเสียดสีขณะก้าวเดิน

“เราเริ่มศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับหลักสรีรศาสตร์ของเท้า และเริ่มออกแบบโครงรองเท้าร่วมกับนักสรีรศาสตร์อย่างพิถีพิถัน ซึ่งเราแก้แพตเทิร์นรองเท้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ในทุกส่วนโค้งจะต้องใส่มาแล้วหน้าเท้าเรียวสวยแต่ต้องไม่บีบ มีการดีไซน์บริเวณหน้าเท้าที่ยาวปิดร่องนิ้วทั้งหมด จะสังเกตได้ว่าเมื่อใส่รองเท้าของลา เบลล่า ทุกคู่จะไม่เห็นร่องนิ้ว โครงพื้นรองเท้าต้องสามารถรองรับการเดินได้อย่างถูกหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้รองรับน้ำหนักตัวที่กดทับอุ้งเท้า ทำให้เดินนานๆ แล้วไม่รู้สึกเมื่อย โดยรองเท้าของเราจะมีตั้งแต่ไซซ์ 35-42 ทั้งหมด 8 ไซซ์ ซึ่งทดลองกับกลุ่มคนที่มีสรีระเท้าต่างๆ เช่น หน้าเท้ากว้าง หรือหน้าเท้าแบน เพื่อปรับแก้โครงจนแน่ใจว่าแต่ละไซซ์สวมใส่สบาย” คุณพิรีพรรณ กล่าวเสริม

จากจุดเริ่มต้น 2 นักธุรกิจสาว สามารถนำพาแบรนด์ให้เติบโตจนมีรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ตั้งแต่ปีแรกด้วยกลยุทธ์ Winning Product คือการเน้นย้ำเรื่องสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้นวัตกรรมการตัดเย็บโครงรองเท้าที่พัฒนาตามหลักสรีรศาสตร์สวมใส่สบายเหมือนรองเท้าสุขภาพ มาผสมผสานกับความเป็นแฟชั่นที่สวยงาม เพราะในช่วงเวลาที่ตลาดมีการแข่งขันสูง คุณภาพสินค้าที่ดีและแตกต่างจากคู่แข่งจะสามารถทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืน

อีกทั้งส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากที่รอซื้อรองเท้าดีไซน์ใหม่อยู่ตลอด เพราะทุกคอลเล็กชั่นที่ออกมาจะขายหมดภายใน 2-3 วันแรก อีกทั้งยังเป็นการซื้อซ้ำจากลูกค้ากลุ่มเดิม และยังมีการบอกต่อจากกลุ่มลูกค้าเดิมไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ จึงทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ลา เบลล่า ใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบ Sincere Testimonial ด้วยการใช้ผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค มาบอกเล่าประสบการณ์การทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ เพราะแบรนด์เชื่อว่าการสื่อสารด้วยความจริงใจคือสิ่งที่สำคัญ

“คอนเทนต์ในโลกออนไลน์ขณะนี้มีจำนวนมาก และผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อจากคอนเทนต์ที่พวกเขาเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ไม่ใช่เพียงแค่การโฆษณาเท่านั้น รวมถึงการทำโฆษณาผ่านแอพพลิเคชั่นในออนไลน์ที่ทางแบรนด์ได้ศึกษากลยุทธ์การยิงโฆษณามาเป็นอย่างดี เราให้ความสำคัญกับการทำโฆษณาออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยแต่ละเดือนจะใช้งบโฆษณาออนไลน์กว่า 7 หลัก และมีระบบการวางแผนการทำโฆษณาแบบมืออาชีพ เพราะนอกจากจะมีสินค้าที่คุณภาพดี คอนเทนต์น่าสนใจ การทำโฆษณาก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะเป็นวิธีการที่เข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยกลยุทธ์โฆษณาของเราจะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน (Custom Audience) และจะเน้นเรื่องการตอกย้ำความน่าสนใจไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เราเห็นว่ามีความสนใจในสินค้าเป็นหลัก (Retargeting) จึงทำให้การทำโฆษณามีประสิทธิภาพที่ดีกว่า” ดร.บรินดา เผย

นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา คนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทำให้มีเวลาเล่นโซเชียลกันมากขึ้น ทางแบรนด์จึงยังทำโฆษณาทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายโตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจถึง 300% โดยหลังสถานการณ์โควิด-19 จบลง ทางแบรนด์ได้เตรียมขยายตลาดไปต่างประเทศที่สวีเดน และลอสแองเจลิส เนื่องจากเป็นตลาดที่ทางแบรนด์เตรียมขยายไปในช่วงต้นปีก่อนจะเกิดโควิด-19 นั่นเอง

หากสนใจ สามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์ http://www.labella-softshoes.com, เฟซบุ๊ก La Bella – Soft Shoes หรือ โทร. (061) 387-6060