พาแล่นเรือใบ-ทำสปาทรายบำบัด สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก

ทับสะแก ที่หลายคนรู้จักมักคุ้น คิดเพียงว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกมะพร้าว ขึ้นชื่อของประเทศ แต่ในพื้นที่นี้ ยังได้สัมผัสกับความงามของพื้นทราย ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ ความสวยงามของวิถีชีวิตชาวสวนมะพร้าว และชาวประมงที่ยังคงรักษาอยู่ และพร้อมกับการต้อนรับด้วยความอบอุ่น ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาสัมผัส อิ่มเอมไปกับบรรยากาศทางธรรมชาติที่แท้จริง

ในพื้นที่ บ้านทุ่งประดู่  ที่ชาวบ้านรวมตัวกัน สร้างสรรค์เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่หยิบเอาวิถีชีวิต การประกอบอาชีพในชุมชน มารังสรรค์เป็นกิจกรรมให้บริการนักท่องเที่ยว ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทำให้พื้นที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ ที่ผ่านการเข้ามาร่วมพัฒนา โดยเฉพาะ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  เป็นองค์กรในด้านการส่งเสริมการพัฒนาท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการท่องเที่ยว จนสามารถต่อยอดกลายเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ  และมีรายได้เสริมจากอาชีพหลัก ที่ยังคงอัตลักษณ์วิถีชีวิตของท้องถิ่นไว้ได้ ให้สามารถสืบทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง ทำให้การท่องเที่ยวที่นี่ เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

พื้นที่ อ.ทับสะแก ถือเป็นแหล่งเพาะปลูกมะพร้าวที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้ให้กับจังหวัด รองจากผลผลิตจากสวนสับปะรด ที่ผ่านมาการประกอบอาชีพ มีความไม่แน่นอนของราคา ดังนั้น การส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกมะพร้าว โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากฝีมือและภูมิปัญญาของชาวบ้าน ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วม ทั้งการประดิษฐ์ ออกแบบ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ให้รู้ถึงคุณค่าของมะพร้าว 1 ลูก ที่สามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เป็นการเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านได้อย่างใกล้ชิดท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม

ที่ชุมชนแห่งนี้มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ทั้ง ผสมเกสรมะพร้าวให้เป็นมะพร้าวกะทิ  ที่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่แห่งนี้  สามารถผลิตมะพร้าวกะทิ ได้จากการทำให้มะพร้าวเป็นหมัน ซึ่งจะได้มะพร้าวกะทิ เนื้อฟู น้ำหนืด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ การทำขนมอัญมณีนกคุ้มแห่งบ้านทุ่งประดู่ ที่ชาวบ้านจะนำมะพร้าวกะทิมาทำเป็นเมนูพิเศษที่ใช้วัตถุดิบเฉพาะ ปลูกขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ หารับประทานได้เพียงที่ชุมชนบ้านทุ่งประดู่เท่านั้น

กิจกรรมงาน DIY  งานฝีมือทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ ที่ทำมาจากกากมะพร้าวเผา เพื่อถ่ายทอดและให้เกิดการเรียนรู้งานหัตถกรรมกะลามะพร้าว ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งสามารถให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมร้อยลูกปัดเป็นของระลึกและของฝาก ที่มีคุณค่าทางใจ จากฝีมือการประดิษฐ์ของตนเอง และยังมีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวเลือกทำในกิจกรรมที่ชุมชนจัดไว้ให้ ทั้งการทำสบู่จากมะพร้าว หรือจะเป็นการทำสบู่เพื่อใช้เองอีกด้วย ทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีผลงานวิจัยหลายตัวที่ชี้ให้เห็นคุณสมบัติพิเศษว่าน้ำมันมะพร้าวดีต่อร่างกายทั้งภายในและภายนอก

นอกจากนั้น เม็ดทรายบนพื้นที่ชายหาดบ้านประดู่ มีคุณสมบัติพิเศษมหัศจรรย์ช่วยรักษาโรค ทำให้ชุมชนนำธรรมชาติ สู่การบำบัด กลายเป็น สปาทรายคลายเครียด กิจกรรมไฮไลต์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ร่วมกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยการทำ “สปาทราย” หรือ “ห่มทราย “ เพื่อช่วยบำบัดความอ่อนล้าของร่างกาย โดยแรกเริ่มก่อนทำกิจกรรม ชาวบ้านต้อนรับด้วยน้ำมะพร้าวอ่อนที่มีรสชาติหอมหวานในพื้นที่ที่หาได้ตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น ซึ่งในน้ำมะพร้าวยังมีเอนไซม์ที่ไปผสมกับกรดในกระเพาะทำให้เกิดประจุไฟฟ้าและไปกระตุ้นตับในการขับสารพิษ

จากนั้นจะให้นักท่องที่ยว ผ่อนคลาย ด้วยการเข้าไปนอนในหลุมทรายเม็ดหยาบ แนะนำให้ใส่ชุดน้อยชิ้นเพื่อให้ร่างกายได้สัมผัสทรายอย่างเต็มที่ ซึ่งทรายบนชายหาดแห่งนี้มีเหลี่ยมมุมคล้ายคริสตัล ที่พิเศษคือ ในเม็ดทรายมีสารซิลิเกต, แคลเซียมคาร์บอเนต, ฟอสเฟส, กำมะถัน ฯลฯ ในการช่วยดูดซับสารพิษและช่วยในการรักษาโรคต่างๆ เช่น กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการเหน็บชา อัมพฤกษ์ และขับน้ำคาวปลา ซึ่งจะใช้เวลาห่มทราย ประมาณ 30 นาที ด้วยระยะเวลาและน้ำหนักของทรายหยาบที่กดทับทุกส่วนของร่างกาย ทรายจะดูดจนเรารู้สึกตามเนื้อตัว ถือเป็นการผ่อนคลายความเครียดแบบชาวบ้านที่ได้ผลเป็นอย่างดี

เมื่อได้เวลาจะเห็นว่ามีเม็ดทรายเกาะติดตามตัว เพียงแค่ปัดด้วยผ้าและสะบัด เม็ดทรายหยาบก็หลุดร่วงจนหมด โดยเนื้อตัวไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ต้องอาบน้ำ เมื่อขึ้นมาจะรู้สึกตัวเบา สบายตัว และปิดท้ายด้วยการนวดแผนไทยตามขั้นตอนการทำสปาทราย

และกิจกรรมที่เจริญรอยตามศาสตร์พระราชา ของในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่าง การแล่นเรือใบ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้น สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์  เพื่อเรียนรู้ทักษะการบังคับเรือใบ โดยโค้ชผู้สอน เป็นเยาวชนทีมชาติ ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ พร้อมที่จะถ่ายทอดศาสตร์การเดินเรือใบขนาดเล็ก ทำให้เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้งครอบครัว

เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2563