จากความน่ารัก น่าเอ็นดูของสุนัขที่รับบทบาทเป็นนักแสดงในละคร และภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง จนสามารถเรียกความรัก ความสนใจจากผู้ชมได้ไม่น้อย ชนิดเพียงชั่วข้ามคืนน้องหมาน้องแมวเหล่านั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นซุป’ตาร์ มีแฟนคลับตามกรี๊ด ตามให้กำลังใจ เรียกว่าถ้าเป็นคนคงชื่นใจ หายเหนื่อย แต่ขอบอกเลยว่า ค่าตัวของพวกสี่ขาไม่ธรรมดานะ ชนิดว่าถ้าตีบทแตกกระจุยรับค่าตัวเป็นล้านเลย

คุณวันไชย เจียมภักดี ครูฝึกสุนัขระดับประเทศ เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ ผู้ที่ละลายพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ ของสุนัข โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการนำสุนัขจรจัดที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งมารับการฝึกฝน และเรียนรู้อย่างถูกวิธี จนความสามารถไปเตะตาโมเดลลิ่งชักนำน้องหมาเข้าสู่วงการบันเทิง ผลงานเรื่องแรก “มะหมา 4 ขาครับ” นับจากนั้นมา เดอะแก๊งกลุ่มนี้ และน้องหมาในสังกัดคุณวันไชยก็กลายเป็นดาวในวงการภาพยนตร์ และโฆษณามากมายทั้งไทยและต่างประเทศ

คุณวันไชย เล่าว่า อยู่ในวงการสุนัขมาราว 20 ปี จุดเริ่มต้นของการฝึกสุนัขเกิดจากความรัก ความสนใจ อยากให้สุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวแรกสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด เป็นที่รักของใครหลายคน ไม่อยากให้สุนัขไปสร้างปัญหาให้กับใคร เลยลองที่จะเรียนรู้ ลองผิดลองถูกฝึกฝนสุนัขด้วยตัวเอง จนกระทั่งต่อมา กลายมาเป็นศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ ปั้นน้องหมามามากมายนับไม่ถ้วน ไปโกอินเตอร์มาก็มี

การฝึกของศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์ ครูฝึกบอกว่า จะเน้นไปที่สุขภาพจิตของสุนัขเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะเข้มงวดในการฝึกฝน เรียนกฎระเบียบ การเข้าสังคม แต่ก็จะแบ่งเวลาทำกิจกรรมชัดเจน เวลาพักก็ให้พัก ให้เล่นผ่อนคลายเต็มที่ ที่สำคัญ เจ้าของหรือผู้เลี้ยงต้องมีความรับผิดชอบร่วมด้วย เพราะเมื่อสุนัขใกล้ชิดใคร พวกเขาก็จะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับคนที่เขารัก

“สุนัขที่ถูกฝึกจะต้องตื่น 06.30 น. เพื่อมาอึ ฉี่ วิ่งเล่น จนถึง 08.00 น. เป็นเวลาอาหารเช้า นอนต่ออีกราว 2-3  ชั่วโมง จากนั้นจะเรียนรู้การเข้าสังคม เรียนกฎ ระเบียบ พัก 12.00 น. จนราว 13.30-14.00 น. ฝึกต่อ ทำกิจกรรม พักเบรกราว 15.30 น. กินอาหารเย็น 17.00-17.30 น. หลังจากนั้นจะปล่อยให้สุนัขวิ่งเล่น พักผ่อนตามใจชอบ กระทั่ง 20.00 น.  สุนัขทุกตัวจะเงียบและเข้านอน”

แต่ละวัน คุณวันไชยจะฝึกสอนสุนัขวันละ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกินครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ ก็ขึ้นกับแต่ละบทเรียนแต่ละช่วงเช่นกัน เพราะสุนัขพูดไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไร การสอนจึงต้องอาศัยการสังเกตดูว่าสุนัขมีอารมณ์อย่างไร การฝึกที่ดี คุณวันไชย บอกว่า ฝึกสั้นๆ แต่ฝึกบ่อยๆ สอนจนกระทั่งแม่นยำต่อคำสั่ง จากนั้นจะเริ่มทดสอบ

สำหรับวัตถุประสงค์การเปิดศูนย์ฝึกสุนัขดังกล่าว เบื้องต้นคุณวันไชยต้องการฝึกสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้แสนรู้ ใครเห็นใครก็รัก แต่ต่อมามองว่าผู้เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการเลี้ยงสุนัขที่ถูกต้อง ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ฉะนั้น มองว่าถ้าสุนัขได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง สุนัขจะได้มีระเบียบวินัย รู้จักรับคำสั่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยงโดยตรง

หลักสูตรการเรียนการสอนสุนัขในเบื้องต้น ผู้เชี่ยวชาญจะสอนให้สุนัขรับคำสั่ง ฝึกความสุภาพให้สุนัขสามารถอยู่ร่วมกันกับเจ้าของ เช่น ไม่ทำลายข้าวของ นั่ง หมอบ คอย คลาน เรียกแล้วมาหา แต่หากเป็นการฝึกให้เป็นซุป’ตาร์ หลักสูตรจะเข้มข้นและใช้เวลาฝึกมากกว่า

“ผมฝึกสุนัข 2 หลักสูตร ฝึกแบบทั่วไป คือ เรียนรู้ภาคทฤษฎีใช้คำสั่งพื้นฐานให้สุนัขจดจำ รู้จักชื่อตัวเอง สอนการจูงเดินอย่างถูกวิธี เรียนรู้คำสั่งให้สุนัขมาหา ฝึกสุนัขให้นั่ง คอย หมอบ ให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพสุนัขเบื้องต้น การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย สายพันธุ์ของสุนัข ใช้เวลาฝึก 2 เดือน ส่วนการฝึกให้เป็นดาราจะฝึกนานกว่า ราว 4-5  เดือน สิ่งที่แตกต่างคือ สุนัขจะแม่นยำในคำสั่ง สามารถแสดงอารมณ์ได้ เช่น อาย โกรธ เอาขามาแตะ ทำตาซึ้ง อกหัก ร้องไห้ นอนกลิ้ง ยิ้ม คาบสิ่งของที่โยนกลับมาได้ ปลอบคนได้ โชว์เดิน 2 ขา กระโดดเชือกคู่ เป็นต้น”

ด้านลักษณะของสุนัขที่จะเป็นดารา นักปั้นมือทอง ระบุว่า ไม่ได้จำกัดเพศ วัย รูปร่าง หน้าตา ความหล่อ ความสวยเหมือนคน อย่างสุนัขที่เล่นภาพยนตร์เรื่อง มะหมา 4 ขาครับ ชื่อ “ริชาร์ด” ตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์ไทยจรจัดเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อายุเดือนครึ่ง ไอคิวสูง ฉลาด สุขภาพจิตดี มีความกระตือรือร้น เลยสอนไม่ยาก ฝึกได้เพียง 2 สัปดาห์ก็ฉายแววเป็นนักแสดง ได้รับการทาบทามไปเล่นภาพยนตร์ทั้งไทย จีน และระดับฮอลลีวูดมาแล้ว

ยกตัวอย่าง โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ชื่อ “โจ๊กเกอร์” ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง วงษ์คำเหลา ละครเรื่อง แหวนดอกไม้ ดอกรักริมทาง โฆษณาอาหารสุนัขเกือบทุกชนิดเคยรับงานของต่างประเทศ เป็นงานของบริษัทหลักทรัพย์ ชื่อเรื่องว่า  “มิสเตอร์ทอม” มีงานโฆษณาสินค้าสุนัขเดินช็อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษ หรือตกแต่งจากคอมพิวเตอร์ช่วยเลย เล่นกันสดๆ ตามนั้นจริงๆ และสุนัขในสังกัดอีกหลายๆ ตัวมีทั้งสุนัขพันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างประเทศ ไซซ์เล็ก ไซซ์ใหญ่ คละกัน รวมตอนนี้มีสุนัขในสังกัดราว 70 ตัว

“วิธีการเลือกสุนัขที่จะมาเป็นนักแสดง ลำดับแรกเลือกที่คาแร็กเตอร์ หรือบุคลิกของสุนัขเป็นหลัก ต้องมีความโดดเด่น เช่น สุนัขบางตัวหล่อก็หล่อแบบสุดๆ สวยก็สวยสุดๆ บางตัวขี้เหร่ก็ขี้เหร่สุดๆ จากนั้นนำมาฝึกขั้นพื้นฐานแบบทั่วไป ตามด้วยบทบาทที่ต้องการเพิ่มเติม ซึ่งสุนัขทุกวัยสามารถฝึกฝนได้ แต่ที่ฝึกแล้วได้ผลมากที่สุด อายุ 5-7 เดือน เพราะสุนัขช่วงนี้อยู่ในวัยที่อยากรู้ อยากเห็น สอนอะไรก็จะกระตือรือร้น ฝึกง่ายพร้อมที่จะเรียนรู้”

สุนัขตัวที่จะเลือกให้แสดงละคร หรือถ่ายโฆษณามีหลักการเลือกต้องดูจากคอนเซ็ปต์ของงานนั้นๆ เป็นหลัก  ลูกค้าจะเป็นผู้กำหนดลักษณะของสุนัขให้สอดคล้องกับลักษณะงานที่ต้องทำ เรียกได้ว่า คุณวันไชยแทบไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกเอง และเมื่อลูกค้าเลือก คุณวันไชยมีหน้าที่ดูว่าสุนัขตัวไหนที่เข้าข่ายที่จะนำไปถ่ายทำ หรือเป็นตัวที่ใกล้เคียงที่สุดตามคอนเซ็ปต์งาน เมื่อได้สุนัขที่ตรงความต้องการ ก็เลือกตัวที่ได้รับการฝึกพื้นฐานที่สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้ และอาจต้องทำการฝึกเพิ่มเติมในกรณีที่เป็นคำสั่งพิเศษ

นักปั้นสุนัขมืออาชีพ เสริมว่า การปั้นสุนัขให้เป็นดารา นายแบบ นางแบบโฆษณาไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากใช้เวลาในการฝึก ต้องดูแววของสุนัขแต่ละตัวว่ามีความฉลาดหลักแหลมหรือไม่ เพราะสุนัขเหมือนคน ที่สำคัญ สุนัขตัวนั้นจะต้องมีสุขภาพกาย-ใจ ที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมทั้งต้องมีความเฉลียวฉลาดเป็นทุนเดิม

“ผมสอนตั้งแต่เบื้องต้น ตั้งแต่ขับถ่าย ระเบียบวินัย ฝึกเรื่องการกินอาหาร จากนั้นจะเริ่มสอนให้สุนัขทำตามคำสั่งพื้นฐานตรงนี้สำคัญ เพราะสุนัขจะเก่งขนาดไหนก็ต้องผ่านการฝึกคำสั่งพื้นฐานก่อน เพราะถ้าเก่งแค่ไหน ไม่ฝึกคำสั่งพื้นฐานคงจะเป็นนักแสดงที่ดีไม่ได้ ต่อจากนั้นเราจะแยกแขนงออกไป ตามความเหมาะสมความชอบของสุนัข เพราะบางตัวชอบเป็นนักกายกรรม ชอบกระโดดตีลังกา ชอบกระโดดลอดบ่วง หรือไต่ถัง บางตัวเหมาะสมกับการต่อสู้ จู่โจม เราจะสอนให้เค้ารู้ว่าอันไหนแสดงจริง อันไหนแสดงเล่นๆ”

สำหรับอุปสรรคสำคัญในการฝึกฝน กูรู บอกว่า สิ่งสำคัญคือ สุขภาพจิตของสุนัข ถ้าสุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตาม สอนอะไรก็จะเปิดใจยอมรับ เพราะสุนัขเป็นสัตว์แสนรู้อยู่แล้ว และซื่อตรงกับคำสั่งไม่งอแง ไม่คิดซับซ้อนเหมือนคน ฉะนั้น ถ้าสุขภาพจิตดี ฝึกอะไรก็ง่าย การฝึกสุนัขนั้นไม่ว่าจะฝึกเพื่ออะไรก็จะใช้วิธีง่ายๆ คือเมื่อเขาทำดี เราก็ให้รางวัล  แต่เมื่อไม่เชื่อฟังก็ต้องลงโทษ ต้องอาศัยความอดทนอย่างสูง เพราะสอนให้สุนัขทำในสิ่งที่ไม่ใช่สัญชาตญาณเดิมของเขา

นอกจากความสามารถแล้ว รูปร่างหน้าตาก็เป็นอีกสิ่งที่ดาราสี่ขาพลาดไม่ได้ คุณวันไชย บอกว่า ต้องเสริมแต่งก่อนเข้าฉาก เช่นว่า ได้รับบทคุณหนู ก็ต้องพาไปกรูมมิ่ง อาบน้ำ แปรงขน หรือบทสุนัขจรจัดก็ต้องแต่งให้ขี้เหร่ ชนิดต้องจ้างช่างแต่งหน้า ช่างทำผมส่วนตัวไปกองถ่าย

ด้านค่าตัวของซุป’ตาร์สี่ขา ขอบอกว่าไม่ธรรมดา ค่าตัวเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว  นักแสดงบางคนยังมีอิจฉา