อดีตหนุ่มออฟฟิศ ปลดหนี้บัตรเครดิต ด้วยการขาย “น้ำส้ม” 6 ช.ม. ต่อวัน

อดีตหนุ่มออฟฟิศ ปลดหนี้บัตรเครดิต ด้วยการขาย “น้ำส้ม” 6 ช.ม. ต่อวัน

เกือบ 4 ปีที่หนุ่มวัย 28 พยายามสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ที่มีภาระทั้งค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และหนี้บัตรเครดิตจำนวนไม่น้อย ด้วยการสร้างธุรกิจเล็กๆ ตระเวนขายน้ำส้มบรรจุขวดย่านโชคชัย 4 แม้ขาดทุนตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มทำ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มก้มหน้ายอมแพ้ต่ออุปสรรค

ลงทุนสองครั้ง สูญเงินสองครั้ง

 

คุณนิก-ธนัช กอวีรสกุลชัย วัย 28 ปี ผู้เป็นต้นเรื่องบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ชีวิตก่อนหน้านี้ ทำงานเป็นพนักงานร้านอาหาร เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งเล็กๆ คือ เด็กเก็บโต๊ะ กระทั่งโยกเป็นคนจดออร์เดอร์ ตลอดการทำงานได้เงินทุกเดือนเหมือนจะไม่ติดขัดอะไร

“ได้เงินเดือนแน่นอนก็จริง แต่ระหว่างเดือนไม่พอใช้ ไม่มีแม้แต่จะซื้อข้าว ผมแบ่งเงิน 1,000 บาทลงทุนซื้อน้ำส้มขาย เพราะต้นทุนไม่เยอะ ใส่ลังโฟมตั้งโต๊ะขายแถวบ้านโชคชัย 4 วันแรกขายไม่ได้ เลยเปลี่ยนมาขายช่วงเช้า 2 ชั่วโมงก่อนไปทำงาน ผลตอบรับดีพอได้จับเงินบ้างประมาณ 800 บาท”

ดูเหมือนจะไปได้ดีกับการขายน้ำส้ม แต่คุณนิกมารู้ทีหลังว่าน้ำส้มที่รับมาขายเป็นน้ำส้มคั้นผสม เมื่อออกไปขายอีกรอบกลับกลายเป็นว่าไม่มีลูกค้ามาซื้อ

“ที่ลงทุนเงินจมทั้งหมด พอเงินเดือนครั้งต่อไปออก ผมแบ่งเงินจำนวนหนึ่งลงทุนซื้อส้มมาคั้นเอง กว่าจะได้แต่ละขวดใช้เวลานานพอสมควร เราก็มีงานประจำที่ต้องทำด้วย ส่วนรสชาติลูกค้าติมาว่าไม่เสถียร บางขวดเปรี้ยว บางขวดหวาน เงินทุนจมไปอีกก้อน” คุณนิก เล่าถึงความพยายามครั้งที่สอง

ความพยายามเกิดขึ้นถึงสองครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนมีทีท่าว่าจะสำเร็จ เงินเดือนที่ได้ก็มีจำกัด จะนำไปลงทุนขายน้ำส้มทุกครั้งคงไม่ได้ จนเกือบถอดใจ แต่เพราะนำเงินเดือนที่ได้ไปซื้อของพวกปัจจัยพื้นฐาน เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ ทำให้ต้องกู้บัตรเครดิตถึงสองใบมาเป็นค่ากิน ค่ารักษาพยาบาลระหว่างเดือน เป็นเหตุให้ต้องเร่งหาเงิน

ลาออกงานประจำ ขายของเต็มตัว

ส่วนงานประจำ คุณนิกตัดสินใจลาออก เพราะดูเหมือนว่างานที่ทำจะไม่ก้าวหน้า กว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งใช้เวลาเป็นสิบปี ที่สำคัญ ระหว่างทำงานชีวิตก็ไม่มีอะไรแน่นอน จึงกลับมาขายน้ำส้มอีกรอบ แต่ขายได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เกิดน้ำท่วมใหญ่ ต้องใช้ลังโฟมสามใบวางบนรถเข็นคล้ายรถเข็นผัก ใช้สก๊อตช์เทปปิดรูกันน้ำเข้า ชั้นบนสุดบรรจุน้ำส้ม ส่วนสองชั้นล่างจมน้ำ เดินลุยน้ำขายได้เงินร้อยสองร้อย จนเป็นโรคน้ำกัดเท้า

ท้อใจ จนรู้สึกเคว้งคว้าง ครั้นจะลุยน้ำไปขายต่อคงไม่ไหว จึงจำใจต้องหยุดขาย แต่หนี้บัตรเครดิตที่เป็นอยู่ถึงสองใบ รวมจำนวนเงินสามหมื่นกว่าบาท ยังตามติดทุกเดือน เป็นเหตุให้ต้องหาหยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัว และญาติพี่น้อง

“ผมกลับไปทำงานประจำอีกรอบ ทำร้านอาหารเหมือนเดิม เข้างานห้าโมงเย็น เลิกงานตีสาม ร่างกายแย่มากกว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีสี่ ตัดสินใจออกมานับหนึ่งใหม่ขายน้ำส้มเหมือนเดิม ลงทุนสองพันบาทครั้งนี้ซื้อน้ำส้มจากเซลส์มาขาย ต้นทุนต่อขวดสูงขึ้น แต่ก็ยังหางานประจำ เพราะมองว่าขายน้ำส้มเป็นงานยิบย่อย”

กลับไปขายที่เดิม แถวโชคชัย 4 ซอย 43 โดยหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่ไม่เป็นดังหวัง เพราะคุณนิกเคยขายน้ำส้มคั้นผสมมาก่อน ทำให้ลูกค้าไม่กล้าซื้อ สร้างความท้อใจไม่น้อย เหมือนชื่อเสียงเสียไปจากการขายครั้งแรก

“ผมขยับไปขายหน้าถนนโชคชัย 4 การเดินทางไม่ค่อยสะดวก ใช้รถเข็นไม่ได้ เข็นไปสักพักล้อหลุดกลางทาง เป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อกระเป๋าเก็บความเย็นแบบสะพาย เดินขายได้เงินกลับมา 2,000 บาท คิดว่ามาถูกทางแล้ว”

 

ต้องขยันเดิน ขยันหาลูกค้า

แม้ขายดีแต่การรับน้ำส้มจากเซลส์มาขาย ต้องแลกกับต้นทุนที่สูงมากถึงขวดละ 15 บาท (บรรจุ 200 cc) ทำให้คุณนิกหันมาติดต่อโรงงานน้ำส้มเองโดยตรง ลดต้นทุนเหลือขวดละ 10 บาท ขายขวดละ 20 บาท ช่วงหลังโรงงานส่งขวดมาผิดไซซ์ ขวดใหญ่บรรจุ 300 cc ต้นทุน 20 กว่าบาท ขายขวดละ 35 บาท สรุปขวดใหญ่ได้กระแสตอบรับดี ทำให้ยึดขายขวดใหญ่มาตลอด

 

ในการขาย ชายหนุ่มลองผิดลองถูกจนได้วิธีขายที่ตอบโจทย์ และช่วยเบาแรง คือใช้รถเข็น วางด้วยลังโฟมสามชั้น ชั้นแรกไม่ใส่ของ ชั้นสองและชั้นบนสุดใส่น้ำส้มทับด้วยเจลเก็บความเย็น พร้อมสะพายกระเป๋าเก็บความเย็นเพื่อเรียกลูกค้า ซึ่งในกระเป๋าไม่ใส่น้ำส้ม เป็นเพียงตัวโชว์

“ข้อดีของการสะพายกระเป๋าขายน้ำส้ม คือเราไม่ได้อยู่กับที่ อย่างลูกค้าอยู่อีกฝั่งอยากซื้อน้ำส้ม แต่เราอยู่อีกฝั่งก็สามารถเดินไปหาลูกค้าได้ ใช้เวลาขายประมาณ 6 ชั่วโมงถึงขายหมด ต้องขยันเดิน ขยันหาลูกค้า”

ออร์เดอร์แต่ละวันพื้นฐานอยู่ที่ 100 ขวด ขายโชคชัย 4 กองปราบ ออกขายตั้งแต่ 19.00-01.00 น. โดยประมาณ สำหรับเคล็ดลับในการขายมีเพียง 3 ข้อ คือ สะอาด มีคุณภาพ รสชาติดี และบริการประทับใจ

“ผมล้มเลิกความคิดทำงานประจำไปเลย แต่แอบดื้อรั้นเหมือนกัน เพราะยังอยากได้เงินเดือนประจำ จุดเปลี่ยนที่สุดคือ ผมปลดหนี้บัตรเครดิตก้อนแรกได้จากการขายน้ำส้ม ไม่นานก็สามารถปลดหนี้บัตรเครดิตใบที่สองได้” คุณนิก เล่าปิดท้ายด้วยน้ำเสียงดีใจ

 

เผยแพร่ครั้งแรก วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2562