เปิดตำนาน “ไก่ย่างจีระพันธ์” ดังพลุแตกจากงานวัด ทายาทรุ่น 3 เล็งขายแฟรนไชส์

เป็น “ไก่ย่างมุสลิม” ที่มีต้นกำเนิดจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่มาดังกระฉ่อนที่กรุงเทพฯ พร้อมสร้างชื่อเสียงไปทั่วประเทศไทยยาวนานเกือบ 8 ทศวรรษ สำหรับ “ไก่ย่างจีระพันธ์” ไก่ย่างสีเหลืองทองที่แจ้งเกิดจากเวทีงานวัด

จริงๆ แล้ว คนชื่อ “จีระพันธ์” ไม่ได้ขายไก่ย่าง แล้วคนขายไก่ย่างก็ไม่ได้ชื่อ “จีระพันธ์” แต่เป็นเพียงผู้ชายส่งไก่ ที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของสูตร ให้เข้ามาสร้างชื่อ “จีระพันธ์” เป็นแบรนด์ไก่ย่างมุสลิมชื่อเสียงโด่งดังไปตราบนานเท่านาน

โดยกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าผู้ชายคนนี้ทำได้จริง ปัจจุบัน “ไก่ย่างจีระพันธ์” ดำเนินธุรกิจมา 3 ชั่วอายุคน ชื่อเสียงโด่งดังข้ามชาติ คนมาเลเซียและสิงคโปร์รู้จักดี มีบริการรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ต้อนรับกรุ๊ปทัวร์สม่ำเสมอ และยังคงตระเวนออกบู๊ธต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 40 งาน ภายในปีนี้ขายแฟรนไชส์อีกด้วย

ดร.อังคณา อาดำ ทายาทรุ่น 3

เด็กส่งไก่ ได้ความไว้ใจจากเจ้าของ
เร่ขายตามงาน ดังเป็นพลุแตก

ดร.อังคณา อาดำ ทายาทรุ่น 3 เท้าความว่า ตนเป็นลูกสาวของคุณอับดุลเลาะห์ อาดำ หรือหลานชายเจ้าของสูตรไก่ย่างจีระพันธ์ ผู้ที่คอยส่งไก่สดในอดีต คลุกคลีอยู่ช่วยงานในร้านไก่ย่างมานานกว่า 10 ปี ซึมซับกระบวนการทำไก่ย่างละเอียดทุกขั้นตอน กระทั่งวันหนึ่งเจ้าของสูตรซึ่งเป็นคุณย่า กังวลว่าจะไม่มีใครสืบทอด จึงมอบกิจการให้หลานชายรับช่วงไว้

“ไก่ย่างจีระพันธ์ ก่อตั้งโดย คุณย่า หรือ คุณประจวบและคุณสง่า อักษรพันธ์ ชาวคลองพระยาบันลือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. 2485 ท่านขายไก่ย่างเสียบไม้บนเตาถ่าน แต่ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สูตรพิเศษสีเหลืองทองจากหญ้าฝรั่น พรมด้วยน้ำกะทิ เนื้อไก่นุ่มชุ่มลิ้น กลิ่นหอม ลูกค้าค่อยๆ บอกต่อ จนชื่อเสียงโด่งดังเรื่อยมา ส่วนชื่อกิจการ ท่านทั้งสองได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาว ซึ่งรับราชการไม่ได้เข้ามาสานต่อธุรกิจ”

หญิงสาว เล่าต่อว่า ประมาณปี พ.ศ. 2500 คุณพ่อเปิดกิจการไก่ย่างของตัวเองพร้อมกับใช้ชื่อ “ไก่ย่างจีระพันธ์” เริ่มต้นนำไก่ย่างไปเร่ขายบนรถซูบารุ บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ย่านซอยกิ่งเพชร เปิดร้านที่บริเวณสะพานพุทธ ขายที่สนามมวยราชดำเนิน ขายที่ย่านพระโขนง ไปขายที่ถนนพัฒนาการ ขายตามงานวัด งานกาชาด งานเกษตรแฟร์ ในยุคนั้นคนกรุงเทพฯ ต่างรู้จักไก่ย่างของเรากันเป็นอย่างดี

คุณอังคณา บอกว่า ด้วยรสชาติของไก่และน้ำจิ้มที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับคุณพ่อมีพี่น้อง 9 คน ทุกคนล้วนต่างขายไก่ย่าง ตระเวนออกงานประจำปีมากมาย ในหนึ่งงานมีร้านไก่ย่างมากกว่า 5 ร้านเรียงกัน สมัยนั้นทำการตลาดใช้ตลกแถวหน้าเมืองไทยเข้ามานั่งทานอาหารในร้าน ธุรกิจเฟื่องฟูมาก รุ่งเรืองสุดๆ คุณพ่อเคยขายไก่ย่างได้วันละ 1,000 กว่าตัว และได้พัฒนาเทคนิคการย่างไก่เพื่อให้ทันต่อความต้องการลูกค้า ด้วยการนำไก่ไปอบก่อนย่าง เพื่อให้ไก่สุกสม่ำเสมอและสุกเร็วขึ้น
ดูเหมือนว่าธุรกิจไก่ย่างไปได้ด้วยดี แต่หลังปี 2516 มีปัญหาเรื่องการเมือง คุณอับดุลเลาะห์ปรับตัวโดยเปิดร้านประจำบริเวณสะพานพุทธ และขายที่สนามมวยราชดำเนิน จากนั้นย้ายมาเปิดร้านที่ย่านพระโขนง ขยายกิจการเป็นร้านอาหารมุสลิมเสิร์ฟเมนูหลากหลาย อาทิ ข้าวหมกไก่ ซุปหางวัว ซุปเนื้อ เนื้อสะเต๊ะ ยำสลัด

ล้มทั้งยืน เพราะเจอวิกฤต
ทายาทตั้งใจเกินร้อย สานกิจการต่อ

เปิดร้านที่ย่านพระโขนงได้ไม่นาน ไก่ย่างจีระพันธ์ ย้ายมาเปิดร้านใหม่ที่ถนนพัฒนาการ แต่แล้วก็เกิดปัญหาถึงขนาดต้องปิดกิจการเลยทีเดียว

“ถนนหน้าร้านมีทางด่วนตัดผ่าน ประกอบกับคุณพ่อและหลานชายไปเปิดร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกา ร้านไก่ย่างที่เมืองไทยจึงปิดตัวลง 1 ปี แต่หลังจากนั้นก็กลับมาเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2535 คุณพ่อลงทุนเปิดร้านที่ริมถนนพระราม 9 บนเนื้อที่ประมาณ 250 ตารางวา” ลูกสาวเจ้าของร้าน ว่าอย่างนั้น

ด้วยรสชาติของไก่ย่างจีระพันธ์ที่เลื่องลือ คุณอังคณา ให้ข้อมูลว่า นักชิมระดับเทพของเมืองไทยต่างตบเท้าเข้ามาพิสูจน์ความอร่อย ส่งผลให้ไก่ย่างขายดิบขายดี มีลูกค้าทั่วทุกมุมของกรุงเทพฯ ต่างเปลี่ยนหน้ากันมาทาน มีการรอคิว ยืนจองโต๊ะ ขายไก่ย่างได้วันละหลายร้อยตัว ข้าวหมกไก่วันละหลายถัง กิจการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

แต่แล้วธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูแบบขีดสุด ต้องมาสะดุดเพราะเสียหัวหน้าครอบครัว นั่นคือ คุณอับดุลเลาะห์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2544 ปี พ.ศ. 2547 เจอวิกฤตไข้หวัดนก ทายาทรุ่น 3 เล่าว่า จากที่เคยขายไก่ย่างได้วันละหลายร้อยตัว ลดลงเหลือเพียงวันละ 12 ตัว ไม่ได้การแล้ว ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเดินเข้ามาแล้วไม่เดินออกไป ขายได้ 1 จานก็ยังดี มองแล้วว่ายังมีช่องทางให้หาเงินได้อีกเยอะ ฉะนั้นเพิ่มเมนูอาหารขึ้นมากมาย อาทิ ข้าวขาวัว ข้าวหมกเนื้อ ข้าวหมกปลา เนื้อสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ ข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๋ยว รวมถึงมีอาหารอีสานด้วย

กระทั่งปี พ.ศ. 2553 คุณแม่ของคุณอังคณาเสียชีวิต เป็นสาเหตุให้หญิงสาวต้องเข้ามาบริหารร้านไก่ย่างจีระพันธ์เต็มตัว

“ปี พ.ศ. 2553 หลังจากสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ดิฉันเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวเต็มตัว ภารกิจแรกที่ทำ คือ สร้างแบรนด์จีระพันธ์ให้กลับมาผงาดอีกครั้งด้วยวิธีการเดิม ออกงานอีเว้นต์ แต่จะเลือกไปเฉพาะงานดังๆ เพราะปัจจุบันคนไม่ค่อยเดินงานวัด ตั้งเป้า 1 ปี ออกงานอีเว้นต์ 40 งาน เพิ่มบริการรับจัดเลี้ยงอาหารนอกสถานที่ รับจัดเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ รับทำอาหารกล่อง รับจัดอาหารงานเลี้ยงในเทศกาลต่างๆ มีดีลิเวอรี่ รวมถึงเพิ่มช่องทางออนไลน์ด้วย”

เผยสูตร “หมักไก่” สีเหลืองทอง
บุกตลาดทุกช่องทาง

คุณอังคณา ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตลาดรับจัดงานเลี้ยง รับจัดอาหารเบรกงานสัมมนา ยังมีช่องว่างอีกมาก ยิ่งเป็นอาหารฮาลาลยังไม่ค่อยมีคนทำ แบรนด์ “จีระพันธ์” เป็นอาหารมุสลิม เป็นอาหารฮาลาลอยู่แล้ว สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคได้ไม่ยาก เสิร์ฟความสะดวกสบายให้ผู้จัดงาน ปัจจุบันมีออร์เดอร์จากงานเหล่านี้เกือบทุกวัน

“สถานการณ์ธุรกิจอาหารแข่งขันสูงมาก มีอาหารหลายสัญชาติเข้ามามีอิทธิพลกับคนไทย ส่งผลยอดขายตกลง 10 เปอร์เซ็นต์ คิดแล้วว่านั่งเฉยๆ ไม่ได้เงินแน่นอน ต้องเข้าไปหาลูกค้า กำไรน้อยไม่เป็นไรดีกว่าไม่ได้ ทำธุรกิจห้ามงก”

สำหรับยอดขายไก่ย่าง ปัจจุบันหากเป็นวันธรรมดา ทางร้านจะขายไก่ย่างได้วันละ 300–320 ตัว วันเสาร์ อาทิตย์ เฉลี่ย 500 ตัว รับจัดงานอีกครั้งละ 100 ตัว จุดขายสำคัญยังคงอยู่ไก่ย่างที่ร้านคงสูตรเดิมมานานเกือบ 80 ปี

“ไก่ย่างจีระพันธ์ เป็นไก่ย่างที่มีสูตรเฉพาะ เป็นไก่ย่างสีเหลืองทอง หมักด้วยเครื่องปรุงหลักๆ มีนมสด น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว เกลือ กระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น หัวใจสำคัญตอนย่างไก่จะพรมด้วยหัวกะทิ เกลือ และหญ้าฝรั่น สมุนไพรอาหรับมีสีเหลือง ลักษณะไก่ที่เลือกใช้เป็นไก่เนื้อ น้ำหนักต่อตัว 1-1.2 กิโลกรัม ก่อนนำไก่ไปย่าง จะต้องอบเพื่อให้ไก่ด้านในสุก จากนั้นนำมาย่างให้ผิวด้านนอกสีสวย กลิ่นหอม”

ลุยขายแฟรนไชส์
ปี 62 ตั้งเป้า 400 สาขา

ด้วยการแข่งขันธุรกิจอาหารที่สูงขึ้น มีทั้งผู้ประกอบการทางด้านวัตถุดิบ เครื่องปรุงรส เชนร้านอาหารจากต่างประเทศยังคงเดินหน้าบุกไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไก่ย่างแบรนด์ดังกล่าวขยายฐานลูกค้าด้วยรูปแบบแฟรนไชส์

“ไก่ย่างจีระพันธ์ เป็นไก่ย่างที่ขายเป็นตัว ขายราคาตัวละ 200 บาท เวลาไปออกบู๊ธ ลูกค้าที่ซื้อ ต้องกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น ไม่สามารถเดินกินได้ เลยคิดว่าจะขายไก่ย่างเสียบไม้พร้อมทาน ราคาไม้ละ 15 บาท ลูกค้างบน้อยซื้อทานได้ พร้อมกับขายแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจ ในราคาเริ่มต้น 5,999 บาท”

 

คุณอังคณา บอกรายละเอียด เพิ่มว่า ลูกค้าบางคนอยากทานไก่ย่างแต่งบน้อย บางคนซื้อแล้วอยากทานเลย บางคนทาน 1 ตัวไม่หมด ที่ผ่านมาทดลองขายไก่ย่างเสียบไม้ ปรากฏผลตอบรับดีมาก ออก บู๊ธแต่ละครั้ง ขายได้ 5,000- 10,000 ไม้ เลยอยากส่งต่อการขายไก่รูปแบบนี้ให้กับคนที่อยากมีอาชีพสุจริต คาดว่าจะขายแฟรนไชส์เดือนกรกฎาคม ในราคา 5,999–14,999 บาท ตั้งเป้าปีนี้ 400 สาขา โดยแฟรนไชซีสามารถไปตั้งราคาขายเองได้ตามความเหมาะสม น้ำหนักไก่ต่อไม้ ประมาณ 6 กรัม

การขยายธุรกิจดังกล่าว นอกจากเพิ่มโอกาสการเติบโต และสร้างรายได้มากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าของแบรนด์ ตอกย้ำว่า อยากให้ไก่ย่างจีระพันธ์อยู่คู่กับคนไทย อยู่คู่กับสังคมมุสลิมไปตลอด
ปัจจุบัน ร้านไก่ย่างจีระพันธ์ มี 3 สาขา คือ สาขาถนนพระราม 9 สาขาเกษตรนวมินทร์ รองรับลูกค้าได้ถึง 160 คน คอยต้อนรับคณะทัวร์ และสาขาสยามพารากอน


“เราเป็นไก่ย่างเจ้าแรกที่ก่อตั้งโดยคนมุสลิมตั้งแต่บรรพบุรุษ เป็นอาหารฮาลาล คนนับถือศาสนาอิสลาม รับประทานได้โดยไม่ต้องกังวล คนศาสนาอื่นก็รับประทานได้ ที่สำคัญชื่อเสียงของคำว่า
จีระพันธ์ ยังตราตรึงในความทรงจำของลูกค้ามานานเกือบ 80 ปี”