อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างผู้ชื่นชอบงานเกษตร เปลี่ยนอาชีพมาเพาะต้นเเค็กตัสขาย

อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างผู้ชื่นชอบงานเกษตร เปลี่ยนอาชีพมาเพาะต้นเเค็กตัสขาย 

แค็กตัส เป็นพืชในวงศ์ Cactaceae มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ก่อนจะแพร่กระจายเข้าสู่แอฟริกา และแพร่กระจายไปทั่วโลก นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ทั้งนี้ พันธุ์ดั้งเดิมพบได้ในพื้นที่ทะเลทรายแห้งแล้ง ก่อนจะมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้ปลูก และเติบโตได้ในสภาพร้อนชื้นหลายประเทศ

อีกทั้งยังเป็นพืชที่มีลักษณะลำต้นแปลก และแตกต่างจากพืชชนิดอื่นคือ ลำต้นของเกือบทุกพันธุ์จะไม่มีใบ เนื่องจากใบมีวิวัฒนาการลดรูปกลายเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำ และป้องกันการกัดกินของสัตว์ ฉะนั้น ลักษณะลำต้นสูงยาว มีหนามปกคลุม ที่มองดูคล้ายกระบอง จึงทำให้คนไทยเรียกพืชชนิดนี้ว่า “กระบองเพชร” ขณะเดียวกัน กระบองเพชรสายพันธุ์รับประทานผลที่รู้จักกัน คือ “แก้วมังกร”

ด้วยคุณสมบัติที่มีลักษณะรูปร่างแปลก มีดอกสีสันสวยงาม ตลอดจนหนามที่น่าสนใจ ขณะเดียวกัน แค็กตัสเป็นพืชที่สามารถควบคุมการเลี้ยงเพื่อให้มีขนาดเล็กได้โดยไม่กระทบกับการเจริญเติบโต มีความอดทน ดูแลง่าย จึงนิยมนำไปใช้เป็นไม้ประดับตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ ทั้งที่ทำงานหรือในบ้านพัก แล้วที่สำคัญมีราคาไม่แพง ด้วยเหตุนี้แค็กตัสจัดเป็นไม้อวบน้ำที่น่าสนใจแล้วมาแรงอีกชนิดหนึ่ง

คุณธนา นุชสมบัติ หรือ คุณอู อยู่บ้านเลขที่ 254 ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นรองประธานกลุ่ม Young Smart Farmer จังหวัดกาญจนบุรี แล้วสนใจเพาะ-เลี้ยง ขยายพันธุ์แค็กตัสเป็นอาชีพมากว่า 3 ปี

อาชีพเดิมคุณอูเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานหลายแห่ง ไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัว จึงมองหาอาชีพเกษตรกรรมทำอยู่กับบ้าน กระทั่งไปพบว่าตัวเองถนัดแล้วชอบแค็กตัสเนื่องจากเป็นพืชไม้ประดับที่ดูแลง่าย มีความสวยงามจากรูปทรงแปลกๆ จึงยึดเป็นอาชีพแล้วเสาะหาอีกหลายพันธุ์ที่ตลาดต้องการมาเพาะ-ขยาย เพื่อจำหน่าย

ปัจจุบันคุณอูเพาะ-ขยายแค็กตัสไว้จำนวนกว่า 5,000 กระถาง มีจำนวนสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการมากมาย โดยสร้างจุดดึงดูดของแค็กตัสด้วยการพัฒนาประยุกต์รูปแบบเพื่อให้เกิดความสวยงาม หรือสร้างลูกเล่นเพื่อให้มีหลายแบบ ทั้งสีสัน ลวดลาย และสีดอก พร้อมนำพันธุ์ที่น่าสนใจมาผสมเพื่อสร้างมูลค่าราคาขายได้อย่างไม่รู้จบ

คุณอู บอกว่า การปลูกเลี้ยงแค็กตัสไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ แล้วยังง่ายกว่าพืชไม้ประดับอีกหลายชนิดด้วยซ้ำ เพียงขอให้คนที่สนใจเข้าไปศึกษาความละเอียดของการให้น้ำ อากาศ แสง ตลอดจนวัสดุปลูกเท่านั้น แล้วเมื่อต้นแค็กตัสเจริญเติบโตแข็งแรง การดูแลเหล่านั้นก็ลดน้อยลงไปตามลำดับ เพราะแต่ละสายพันธุ์มีความละเอียดและวิธีปฏิบัติที่ต่างกัน ฉะนั้น การคลุกคลีอยู่ตลอดเวลาจะช่วยทำให้สามารถเรียนรู้ได้เอง

วิธีขยายพันธุ์ที่คุณอูนำมาใช้กับแค็กตัส ได้แก่ การเพาะเมล็ดจากดอกที่ผสมเกสร การปักชำ การต่อยอด (คล้ายการเสียบยอด) ทั้งนี้ การนำแต่ละวิธีมาใช้จะขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะในแต่ละสายพันธุ์

การใส่ปุ๋ยและอาหารเสริม คุณอูบอกว่า ต้องเริ่มจากการนำวัสดุปลูกที่เหมาะสมมาใช้ ทั้งนี้ กระบองเพชรชอบเนื้อดินร่วนและโปร่ง ไม่แน่น ดังนั้น การปลูกกระบองเพชรในกระถางจึงต้องเตรียมวัสดุปลูกหลายชนิดผสมกัน อย่างที่ทำอยู่ด้วยการใช้วัสดุปลูกที่เป็นใบก้ามปูหมักแล้วบดละเอียด รวมถึงยังใช้หินภูเขาไฟเบอร์ 00 มูลไส้เดือนอย่างละ 1 ส่วน ผสมปุ๋ยเคมี (เล็กน้อย) ประเภทละลายช้าสูตร 3-6 เดือน ขณะเดียวกัน การให้น้ำค่อนข้างน้อย แต่ยังต้องการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปกติจะให้น้ำเพียงเล็กน้อยตามขนาดของต้น ประมาณ 3 วัน/ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การเพาะ-ขยายพันธุ์แค็กตัสเพื่อจำหน่ายจะหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยเคมี เนื่องจากเมื่อขายให้ลูกค้าไปแล้วจะได้ไม่ทำให้เกิดความยุ่งยากกับลูกค้าต่อการใช้ปุ๋ย ทั้งนี้ โดยธรรมชาติแล้วแค็กตัสสามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเลยเพราะจะได้อาหารจากวัสดุปลูกที่มีคุณภาพเพียงพอแล้ว ที่เหลือก็ขอให้เอาใจใส่เรื่องการให้น้ำกับแสงแดด และอุณหภูมิเป็นสำคัญ

“สำหรับแสงแดดซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเลี้ยงแค็กตัส ผู้เลี้ยงควรทราบก่อนว่าแต่ละสายพันธุ์ต้องการแสงแดดมาก-น้อยต่างกัน อย่างที่ปลูกอยู่จะใช้ซาแรนกรองแดดขนาด 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อต้องการให้แสงแดดส่องประมาณ 4-6 ชั่วโมงในแต่ละวันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ซื้อต้องไม่ลืมที่จะถามผู้ขายว่าพันธุ์ที่ซื้อไปนั้นควรอยู่ในสภาพแดดเท่าไรให้เหมาะสม”

คุณอูนิยมเพาะ-เลี้ยง แค็กตัสแบบมีหนามมากกว่าสายพันธุ์อื่น เขาบอกว่าพันธุ์นี้มีลูกเล่นมาก แล้วยังมีราคาไม่แพง ลูกค้าทุกคนสามารถซื้อไปเลี้ยงได้ โดยเวลานำไปขายจะสร้างมูลค่าด้วยการใช้กระถางปลูกที่มีความสวยงาม ดูเป็นแฟชั่น หรือมีการนำสายพันธุ์หลายชนิดมาตกแต่งไว้ในถาดปลูกเดียวกันเพื่อสร้างความน่าสนใจให้แก่ลูกค้า

“เสน่ห์ของแค็กตัสอย่างแรกอยู่ที่ความสวยที่เกิดจากลักษณะประจำของแต่ละสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นดอก หนาม สี รูปทรง โดยผู้เลี้ยงแต่ละรายก็จะมีรสนิยมความชอบแตกต่างกัน แต่เมื่อได้ลองสัมผัสใกล้ชิดแล้วจะชอบ โดยเฉพาะอย่างพันธุ์ที่มีดอกได้ปีละครั้ง เมื่อเกิดดอกก็จะทำให้ผู้เลี้ยงเกิดความภาคภูมิใจ ทะนุถนอมอย่างเต็มที่ จนดูเหมือนเป็นความผูกพัน”

แหล่งจำหน่ายแค็กตัสของคุณอูจะอยู่ตามบู๊ธงานต่างๆ ที่หน่วยงานราชการ/เอกชนจัดขึ้น หรือตามตลาดนัดชุมชนที่มีขนาดใหญ่ โดยนำไปขายเองจึงทำให้ได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นทุกครั้ง แล้วจะเก็บข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนาแค็กตัสที่ปลูกให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดทุกครั้ง

สำหรับประเภทลูกค้ามักเป็นข้าราชการ (กลุ่มนี้มาก เพราะไปวางขายตามสถานที่ราชการหลายแห่งในจังหวัด) กับนักเรียน นักศึกษา ลูกค้าที่ซื้อไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์มักนำไปใช้ประดับตามบ้านเรือนที่พักอาศัยหรือสำนักงาน เนื่องจากแค็กตัสเป็นไม้ประดับที่มีขนาดเล็ก เลี้ยงดูง่าย ไม่ยุ่งยากหรือสิ้นเปลือง สามารถนำไปวางตำแหน่งใดก็ได้

ลูกค้าอีกประเภทมักมาซื้อแล้วขอคำแนะนำเรื่องการขยายพันธุ์เพื่อต่อยอดเป็นอาชีพสร้างรายได้เสริม ซึ่งก็ได้แนะนำแล้วให้ความรู้ อีกกลุ่มของลูกค้าที่ได้รับความสนใจมากคือการซื้อเพื่อนำไปใช้เป็นของชำร่วยในงานมงคลต่างๆ โดยจะใช้เป็นกระถางขนาดเล็กที่มีความสวยงามแล้วผูกโบสร้างสีสัน

ความนิยมแค็กตัสโดยทั่วไปอาจมีลักษณะเฉพาะกลุ่มของผู้ที่มีรสนิยมเดียวกัน ดังนั้น คุณอูมองว่าการได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนใหม่ในทุกครั้งที่นำไปขายยังสถานที่ต่างๆ ถือว่าสำคัญมากเพราะจะช่วยให้มีความรู้กว้างขวาง ได้มีโอกาสรู้ทิศทางการตลาดของพืชชนิดนี้ว่าเป็นอย่างไร หรือรู้ว่าควรเพาะ-ขยายพันธุ์ไหนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา มิเช่นนั้นหากเพาะ-ขยายพันธุ์แบบขาดการวางแผนก็จะส่งผลต่อความเสียหายแล้วสิ้นเปลืองเงินทุนโดยเปล่าประโยชน์

ราคาจำหน่ายถ้าเป็นกระถางขนาด 2 นิ้ว แล้วเป็นพันธุ์ทั่วไปก็จำหน่ายตั้งแต่ 15 บาทขึ้นไป จนถึง 3,000 กว่าบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคามาก-น้อยต้องพิจารณาจากความยาก-ง่ายในการเพาะ-เลี้ยง อีกทั้งราคาซื้อ-ขายไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัว ขึ้นอยู่กับความพอใจระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย

ในฐานะรองประธานกลุ่ม Young Smart Farmer เขาชี้ว่าการได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับกลุ่ม Young Smart Farmer ในสาขาด้านต่างๆ ถือว่ามีความสำคัญและจำเป็นต่ออาชีพนี้มาก เพราะจะได้มีโอกาสรู้จักตลาดที่กว้างมากขึ้น รู้จักผู้คนหลายอาชีพ ได้ความรู้ใหม่ ได้ข้อคิดและมุมมองที่ดี

“อยากให้ทุกท่านลองหาซื้อแค็กตัสไปปลูกเลี้ยง อาจไม่จำเป็นต้องซื้อราคาแพง เพราะไม้พันธุ์นี้เลี้ยงดูแลง่าย สร้างความเพลิดเพลินให้กับท่าน โดยเฉพาะท่านที่ต้องการฝึกขยายพันธุ์ ผสมพันธุ์ หากประสบความสำเร็จอาจทำให้ท่านเกิดความชอบ หลงใหลในความสวยงามจนต้องไปสรรหาพันธุ์อื่นๆ มาเลี้ยงเพิ่มเติมอีกแน่” คุณอู กล่าว

ถึงตอนนี้ท่านจะไม่ลองหาแค็กตัสสักต้นมาเลี้ยงหรือ?? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธนา นุชสมบัติ หรือ คุณอู โทรศัพท์ (098) 502-9036 line : 0985029036 หรือเข้าไปดูรูปสวยๆ ได้ที่ fb : baan hugkan