รถยนต์ติดปีก บินได้ เติมน้ำมันตามปั๊ม จอดที่ไหนก็ได้ นี่ไม่ได้มาเล่นๆ นี่ของจริง!

นวัตกรรมยานยนต์บินได้ที่จะเอามาเล่าสู่กันฟังนี้มีชื่อว่า “ฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ แอโร่โมบิล 3.0” (Flying Roadster- Aeromobile 3.0) มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยโฉบเฉี่ยวเปรี้ยวจี๊ดสะดุดตาสุดๆ มีรูปทรงของรถสปอร์ตสองที่นั่งและติดปีกแมลงปอแบบพับได้อยู่ใกล้ห้องนักบิน  ด้านหน้าปราดเปรียวเหมือนรถแข่งไล่มาจนถึงห้องโดยสาร 2 ที่นั่งซึ่งตีโป่งออกเล็กน้อย ส่วนด้านหลังเรียวแหลมดูเพรียวลม ล้อหน้าเป็นล้อหนาแบบรถยนต์ส่วนล้อหลังผอมบาง

ส่วนกลางยานยนต์เน้นความผอมบางเมื่อยังไม่กางปีก และด้านท้ายกว้างตามรูปทรงของปีกหลัง ตัวรถมาพร้อมปีกแบบพับเก็บได้ และใบ้พัดท้าย มิติของรถยาว 6,000 มิลลิเมตร เมื่อพับปีกอยู่จะกว้าง 2,240 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างเมื่อกางปีกอยู่ที่ 8,320 มิลลิเมตร ภายในมีเบาะนั่งหุ้มหนัง 2 ที่ คอนโซลหน้าหุ้มหนังอย่างดี และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการขึ้นบิน ตัวถังทั้งหมดใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผสานกับโครงสร้างเหล็ก ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 450 กิโลกรัมเท่านั้น

ด้านการขับเคลื่อนฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ ใช้เครื่องยนต์ Rotax 912 ทำงานทั้งบนถนนและบนฟ้า  โดยเมื่อวิ่งบนถนนจะทำความเร็วได้มากกว่า 160 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 12.5 กม./ชม. น้ำมันถังหนึ่งวิ่งได้ระยะทาง 875 กิโลเมตร ส่วนการบินบนฟ้านั้นใช้ความเร็วขึ้นบินหรือตอนเทคออฟที่ 130 กม./ชม. ต้องการระยะทางเทคออฟ 250 เมตร  ในการบินนั้นต้องรักษาความเร็วไม่ต่ำกว่า 60 กม./ชม. เร็วที่สุด 200 กม./ชม. บินได้ไกล 700 กิโลเมตร และใช้ระยะทางลงจอดจนหยุดสนิทเพียง 50 เมตร

ด้วยความเร็วระดับนี้ ระยะทางจากกรุงลอนดอนในอังกฤษไปยังเมืองอาเบอร์ดีนในสก็อตแลนด์จะใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น

รถยนต์บินได้รุ่นดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัทแอโร่โมบิล (Aeromobile) จากประเทศสโลวาเกียมาตั้งแต่ปีค.ศ.1990 ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมนี้มานานถึง 24 ปี และผ่านการปรับแต่งมาเรื่อยๆ แบบไม่หยุดยั้งจนสามารถเปิดตัวได้อย่างสง่างามเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 โดยการนำออกมาทดลองบินได้อย่างประสบผลสำเร็จในงาน Pioneers Festival ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และถ่ายทำเป็นคลิปเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ยูทูปไปแล้ว

แอโร่โมบิล 3.0 นี้เป็นรถต้นแบบในโปรเจกต์ที่พัฒนาโดยทีมวิศวกรของบริษัทแอโร่โมบิลที่มีฐานอยู่ในเมืองบราติสลาวา (Bratislava) สาธารณรัฐสโลวาเกีย และมีผู้ก่อตั้งสองคน คือ สเตฟาน ไคลน์ (Stefan Klein) และ ยูราก วาคูลิก(Jurak Vaculik )

ฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ แอโร่โมบิล 3.0 ทำให้คนทั่วโลกตื่นตะลึงด้วยความสามารถของรถไฮบริดบินได้ต้นแบบเป็นคันแรกของโลก สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างล้นหลามด้วยเครื่องยนต์  Rotax 912 ULS และปีกรถยนต์แบบที่พับเก็บได้ในตัวรถที่ทำด้วยโลหะน้ำหนักเบาเคลือบพื้นผิวด้วยคาร์บอน ซึ่งสนนราคาแม้จะยังไม่เปิดเผยแต่ก็คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างราคาซูเปอร์คาร์และเครื่องบินเล็ก

ทีมผู้สร้างฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ของแอโร่โมบิล ยืนกรานว่า นวัตกรรมชิ้นนี้เป็นอะไรที่มากกว่าแค่ของเล่นเด็กแน่นอน เพราะนี่คือเรื่องจริงของรถยนต์ติดปีก ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนการเดินทางของผู้คนทั่วโลกด้วยรถที่บินได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสนามบินหรือสร้างรันเวย์ยาวๆและสามารถลงจอดตามสนามหญ้าหรือพื้นที่ทางเกษตรได้ทั่วไป

นอกจากนั้นฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ยังสามารถเข้าไปจอดตามลานจอดรถทั่วไปได้เหมือนรถยนต์อื่นๆ รวมทั้งเติมน้ำมันตามปั๊มน้ำมันได้เป็นปกติด้วย

เบื้องหลังการพัฒนาไฮบริดบินได้ของแอโร่โมบิล เกิดมาจากความคิดที่ต้องการให้ผู้คนสามารถเลือกการเดินทางได้อย่างอิสระ ประกอบกับเห็นว่าสภาพชีวิตประจำวันของผู้คนในเมืองใหญ่มีความกดดันจากการ ผจญกับปัญหารถติดบนท้องถนนเป็นเวลานาน รวมไปถึงความล่าช้าและยุ่งเหยิงของผู้โดยสารที่ต้องประสบในสนามบิน ทำให้เกิดแนวคิดในการพัฒนาแอโร่โมบิล 3.0 ออกมาเป็นรถยนต์ติดปีกให้บินได้

บริษัทแอโร่โมบิลยังมองเห็นโอกาสอีกว่า รถยนต์บินได้จะประสบความสำเร็จในหลายประเทศที่ยังขาดการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแค่ 3 % เท่านั้นทั่วทั้งโลกที่มีถนนทางเรียบ และทำให้ทีมผู้สร้างใช้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนารูปแบบยานยนต์ที่ตอบโจทย์ข้อนี้

ตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษในการพัฒนาฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ รถต้นแบบคันแรกสุดที่สร้างขึ้นนั้นมีรูปร่างที่แปลกประหลาดกว่าที่เห็นมากและมีความยุ่งยากในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน แต่ทีมออกแบบของแอโร่โมบิลก็ไม่ย่อท้อจนทำให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด นำมาสู่รูปแบบรถยนต์ไฮบริดที่สามารถขับขี่ได้ภายใต้กฎหมายจราจรบนท้องถนนทั่วไปและบินได้ไปพร้อมกัน  จนสุดท้ายได้เปลี่ยนแปลงหน้าตารถต้นแบบรุ่นแรกๆที่คิดเอาไว้มาเป็นรถบินได้โฉบเฉี่ยวตามภาพที่เห็น

ผลงานของแอโร่โมบิลได้รับเสียงตอบรับชื่นชมอย่างมากจากผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานยนต์ ถึงการออกแบบที่สวยงามผสมผสานกับเทคโนโลยีอย่างลงตัวในระบบการเปลี่ยนจากรถเป็นเครื่องบินจนทำให้ได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ยอดนิยมประจำปี 2015( Popular Science’s 2015 Invention Awards)

  แต่ความฝันที่จะเดินทางด้วยรถบินได้จริงๆนั้นก็ยังไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องขึ้นอยู่กับว่าแต่ละประเทศมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเพียงใดต่อหลักการเดินทางทางอากาศอย่างเสรี ซึ่งถ้าในยุโรปเริ่มต้นไม่ได้ก็อย่าหวังว่าประเทศอื่นจะเอารถมีปีกขึ้นบินได้ง่ายๆ

รวมไปถึงปัญหาที่ว่าฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์มีการทดสอบด้านความปลอดภัยเพียงพอจนผ่านมาตรฐานการบินแล้วหรือยัง ตลอดจนความสามารถในการผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงอุตสาหกรรมสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด

ผู้ที่จะขับขี่ไฮบริดบินได้ไม่เพียงต้องใช้ใบขับขี่รถยนต์ แต่ยังจำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับเครื่องบินเล็ก ด้วย แต่ทางแอโร่โมบิลบอกว่า การบังคับฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ แอโร่โมบิล 3.0 ไม่ยุ่งยากเลย และมีความเสถียรในการบินพอกับการขับขี่บนถนน

แต่กระนั้นในขณะนี้ถึงแม้จะมีผู้สนใจทุ่มทุนเสนอราคาซื้อสูงมากเพียงใด บริษัทยานยนต์สัญชาติสโลวาเกียแห่งนี้ก็ยังไม่เปิดรับใบสั่งซื้อแต่อย่างใด จนกว่าทางบริษัทจะมั่นใจว่าจะสามารถผลิตได้ตามมาตรฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วไป

สำหรับฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ รถต้นแบบบินได้คันนี้ใช้เวลาสร้างนาน 10 เดือน ด้วยทีมงาน 12 คน แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่า ในการทดสอบการบินที่เมืองนิตร้า(Nitra) ทางภาคตะวันตกของสโลวาเกียเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ฟลายอิ้ง โร้ดสเตอร์ได้ประสบอุบัติเหตุตกเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้องในขณะที่บินอยู่ในระดับความสูง 700 ฟุต ทำให้ยานยนต์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ผู้ขับขี่สามารถดีดตัวออกมาพร้อมร่มชูชีพและได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุในครั้งนี้มิได้เป็นเหตุให้ทางแอโร่โมบิลยุติการพัฒนายานยนต์บินได้แต่อย่างใด ยัคงเดินหน้าทดสอบระบบและขบวนการผลิตซึ่งคาดว่าอาจจะสามารถเปิดให้จองได้ในปี 2017

เชื่อว่าอีกไม่เกินทศวรรษนี้ เราจะได้เห็นรถติดปีกบินว่อนอยู่ในท้องฟ้าแน่นอน

ส่วนใครที่อยากเป็นเจ้าของ ก็เตรียมตัวไปสอบใบอนุญาตขับเครื่องบินเผื่อไว้ก่อนเลย

 

 

////////////////