พิชิตฝัน ทัวร์ดวงจันทร์หัวละ 5 พันล้านบาท

เมื่อเร็วๆ นี้ นาซาเพิ่งเผยภาพด้านมืดของดวงจันทร์ ทำให้เราเห็นว่าดาวโลกสีน้ำเงินดวงนี้สวยงามกว่าดวงจันทร์มากมายหลายเท่านัก
หลายคนอาจไม่รู้ว่าภาพดวงจันทร์ที่เรามองเห็นกันอยู่ทุกวันนั้นเป็นภาพด้านสว่างเพียงด้านเดียวของดวงจันทร์ เพราะดวงจันทร์จะหันด้านเดียวเข้าหาโลกเสมอ ส่วนอีกด้านของดวงจันทร์ที่เรามองไม่เห็นนั้นเรียกว่า “ด้านมืด”

โดยปกติแล้วถ้าเรามองดวงจันทร์จากพื้นโลกจะไม่มีทางได้เห็นด้านหลังของดวงจันทร์เลย เพราะดวงจันทร์หมุนโคจรไปพร้อมกับโลก เป็นการหมุนแบบสมวาร (Synchronous rotation) เราจึงเห็นดวงจันทร์จากโลกด้านเดียวเสมอซึ่งบางทีก็เรียกว่าด้านใกล้ของดวงจันทร์

และเหตุที่เรามองเห็นดวงจันทร์เป็นรอยด่างดำชัดเจน ก็เพราะว่าเป็นแสงและเงาที่เกิดจากความสูงต่ำบนผิวดวงจันทร์ ถ้าเห็นความสว่างบนพื้นผิวมากแสดงว่าเป็นบริเวณที่ราบสูง ถ้าเห็นความมืดคล้ำบนพื้นผิวแสดงว่าเป็นที่ราบต่ำ


ภาพที่นำเอามาให้ชมนี้เป็นด้านมืดของดวงจันทร์ เพราะยานอวกาศของนาซาสามารถถ่ายจากด้านนอกอีกด้านหนึ่งของดวงจันทร์เข้ามาโดยมีโลกเป็นฉากหลัง กล้องของนาซาได้เผยให้เห็น “ด้านมืด” ของดวงจันทร์ (Dark Side of the Moon) ที่ชาวโลกไม่เคยได้เห็นมาก่อน และทำให้เราได้รู้ว่าโลกของเรานั้นเป็นวัตถุที่สว่างไสวในห้วงอวกาศอันมืดมิด เป็นดวงดาวสีน้ำเงินที่งดงามเหลือเกิน

ภาพของนาซาภาพนี้เป็นการมองโลกจากดวงจันทร์ ทำให้เราได้เห็นโลกเป็นสีฟ้าจากสีของพื้นน้ำมหาสมุทร และมีสีขาวปกคลุมไปทั่วจากเมฆ ได้เห็นพื้นดินบ้างเป็นรูปร่างของทวีปต่างๆ ชัดเจน เหมือนที่เราได้เห็นบนแผนที่โลก

ความงดงามและปริศนาอันท้าทายในห้วงอวกาศที่ยังมีสิ่งลี้ลับอันมากมายให้ค้นหานี่เอง ที่ทำให้มนุษย์โลกปรารถนาที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดในเรื่องการสำรวจอวกาศที่เปิดทางให้เฉพาะเจ้าหน้าที่นาซาและโครงการอวกาศขนาดใหญ่ เงินทุนมหาศาลที่ทำกันในระดับประเทศมหาอำนาจเท่านั้น

หลังจากภาคเอกชนได้พัฒนาการสำรวจอวกาศขึ้น จนสามารถออกแบบยานอวกาศที่เชื่อว่าจะพาคนธรรมดาออกไปท่องอวกาศได้ ความฝันที่จะเกิดทัวร์ดวงดาวต่างๆ โดยเฉพาะดวงจันทร์ซึ่งถือว่าเป็นดวงดาวบริวารที่อยู่ใกล้โลกที่สุด ก็ใกล้เป็นจริงเข้ามาทุกที


คำถามที่ว่า ในอนาคตจะมีทัวร์ไปดวงจันทร์ ได้หรือไม่ เวลานี้มีคำตอบแล้วคือ บริษัท Excalibur Almaz Limited (EA) เป็นบริษัทการบินอวกาศเชิงพาณิชย์ ได้ร่วมกับ NASA เปิดการขนส่งในอวกาศในวงโคจรระดับต่ำ และมีแผนจะขนส่งไกลออกไปถึงวงโคจรดวงจันทร์ พร้อมกับการสำรวจดวงจันทร์ และยังมีวัตถุประสงค์ทำเหมืองแร่บนดาวเคราะห์อื่นๆ ด้วย

Excalibur Almaz Limited มีโครงการท่องเที่ยวอวกาศหลายรายการคือ การนำนักท่องเที่ยวไปชมดวงจันทร์ (ในวงโคจร ไม่ได้ลงจอด) หรือ ชมดาวเคราะห์น้อยที่โคจรเฉียดใกล้โลก และฝันไกลกระทั่งท่องอวกาศลึกออกไปไกลจากโลกเหมือนที่เราเห็นในภาพยนตร์แนวไซไฟหลายเรื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้จริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในราคาประหยัดสุดๆ

เท่าที่มีข้อมูลตอนนี้คือ Excalibur Almaz Limited ตั้งราคาทัวร์ดวงจันทร์เอาไว้เมื่อปี 2012 ที่ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินบาทที่อัตราแลกเปลี่ยน 32-33 บาท/ดอลลาร์ ใครอยากไปเที่ยวดวงจันทร์ก็เตรียมเงินเอาไว้เลย 5,000 ล้านบาทเบาะๆ เพราะถ้าทำโครงการได้จริงเชื่อว่าต้นทุนน่าจะพุ่งจากเดิมเป็นเท่าตัว อย่างแน่นอน

นอกจากการยั่วยวนให้บรรดาเศรษฐีเงินถังนั่งยานอวกาศไปเที่ยวดวงจันทร์กันแล้ว ยังมีทัวร์อวกาศในรูปแบบอื่นอีก ได้แก่ การพาผู้โดยสารไปสัมผัสประสบการณ์อันสุดแสนประทับใจบนสถานีอวกาศนานาชาติ รวมทั้งยังให้ทำกิจกรรมอื่นมากมาย เช่น นักท่องเที่ยวอาจได้ใช้เวลาอยู่นอกสถานีอวกาศจริงๆ เพื่อสัมผัส ประสบการณ์ในขณะที่ลอยตัวเท้งเต้งอยู่นอกโลก ได้ชมดวงจันทร์ใกล้ๆ แบบเต็มตา หรืออาจเป็นการเดินทางรอบวงโคจรของโลก เป็นต้น


มีข่าวว่า คนที่รักการท่องอวกาศเตรียมตัวเตรียมใจไปท่องอวกาศจำนวนหนึ่ง ได้เซ็นสัญญากับบริษัทที่ให้บริการด้านท่องเที่ยวอวกาศไปพอสมควร และส่วนใหญ่ทำทัวร์คล้ายๆ กันคือ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวอวกาศได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งในการออกไปลอยตัวอยู่นอกสถานีอวกาศ

แต่ไม่ใช่ว่าแค่มีเงินแล้วจะท่องเที่ยวอวกาศได้นะ คนที่อยากไปเห็นดาวโลกจากนอกโลกจริงๆ จะต้องใช้เวลาฝึกซ้อมเตรียมตัว เตรียมร่างกาย และความพร้อมอยู่เป็นปีๆ เลยทีเดียว หากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ตามเกณฑ์ก็ต้องสละสิทธิ์และขายตั๋วให้กับนักท่องเที่ยวคนอื่นไป


ขณะนี้มีบริษัทเอกชนอยู่ประมาณ 7 บริษัท ที่ให้บริการด้านท่องเที่ยวอวกาศคือ เวอร์จิน กาแลกติก, สตาร์เชสเซอร์, บลู ออริจิน, อาร์มาดิลโล แอโรสเปซ, เอ็กซ์คอร์ แอโรสเปซ, ร็อกเกตเพลน และ สเปซ แอดเวนเจอร์

ทัวร์อวกาศในลักษณะนี้ประเมินต้นทุนในปัจจุบันไว้คร่าวๆ แค่หัวละ 7-10 ล้านบาท แต่ยังไม่มีใครทำได้จริง เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาพาทัวร์ได้ ค่าทัวร์คงเพิ่มมากกว่านี้อีกหลายล้าน

 

//////////