เก้าอี้นี้ เปี่ยมล้นความทรงจำ

 

     

      มีใครเป็นแบบนี้บ้างไหมคะ

      หลงรักเสื้อ-กางเกงตัวโปรดแบบไม่ยอมเปลี่ยนใจไปชอบตัวอื่น ถึงขนาดใส่แล้วใส่อีกจนขาดเปื่อย ปะผุไม่รู้กี่รอบๆ กระทั่งหมดสภาพที่จะใส่ได้อีก ก็ยังไม่ยอมทิ้ง

      บางคนชอบที่ซู้ดดด…แต่บังเอิญใส่เสื้อผ้าชุดนั้นไม่ได้อีกแล้ว ด้วยเหตุจำเป็นสารพัดทั้งที่ของยังใหม่เอี่ยม อาจจะเป็นเพราะจู่ๆ ก็อ้วนบวมจนเสื้อคับติ้ว บีบอัดเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมลงแม้แต่ขีดเดียว

      เสื้อผ้าตัวโปรด จะทิ้งก็เสียดาย จะส่งมอบต่อให้ใคร ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรักชอบเหมือนเราหรือเปล่า สู้เก็บเอาไว้ดูเล่นเป็นครั้งคราวให้สุขใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ ไม่ดีกว่าหรือ

      แต่การเก็บเสื้อผ้าเก่านั้น ส่วนใหญ่เรามักซุกมันไว้ในก้นตู้ ถึงจะรักจะหวงแค่ไหนมันก็ไม่ได้ออกมาโชว์ตัวให้เราเห็นสักเท่าไหร่หรอก

      ไม่มีใครอยากเอาเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้วออกมาเบียดกินพื้นที่เก็บเสื้อผ้าที่ต้องหยิบจับมาสวมใส่ทุกวันแน่ เว้นแต่ว่าใครคนนั้นจะมีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มหึมาประเภทวอล์กอินเข้าไปแล้วเดินดูได้รอบห้องเหมือนโชว์รูมร้านขายเสื้อผ้า

      และที่น่าแปลกใจก็คือ เสื้อผ้าแสนรักของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีใครอยากทิ้งนั้นมักจะอยู่ในกลุ่มผ้ายีนส์หรือผ้าเนื้อหนาแบบลำลองเก๋ๆ เรียบๆ ธรรมดานี่เอง เป็นเสื้อผ้าจำพวกที่ใส่แล้วดูดีเหมาะกับตัวเรา และสวมสบาย ใช้ได้หลายโอกาส สะท้อนบุคลิกแสดงตัวตนของเราชัดเจนมากกว่าเสื้อผ้าที่มีดีไซน์มากมาย

      ไม่เชื่อลองไปดูที่ก้นตู้เสื้อผ้าของคุณก็ได้ รับรองว่าต้องมีกางเกงยีนส์เก่าเก็บสักตัวแหละที่ยังซุกอยู่ตรงนั้นทั้งที่ไม่ได้ใส่มันมาหลายปีแล้ว

      และถ้ามีใครสักคนสามารถชุบชีวิตเสื้อผ้าแสนรักของคุณขึ้นมาอีกครั้งในรูปลักษณ์ใหม่ที่ใช้งานได้ทุกวัน แต่แปลก แตกต่างไปจากเดิมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ คุณจะว่าอย่างไร

      

      โทเบียส ชูเรตเซ็ก (Tobias Juretzek) ศิลปินนักออกแบบชาวอิตาเลียน สามารถเก็บความทรงจำของทุกคนไว้ในโต๊ะเก้าอี้ชุดนี้ค่ะ

      “Remember me Chair”

      ผลงานชุดนี้สร้างสรรค์ให้กับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของอิตาลี CASAMANIA

      CASAMANIA เพิ่งก่อตั้งมาเมื่อปี ค.ศ. 1984 นี่เอง ในยุคที่เฟอร์นิเจอร์ประเภทโมดูลาร์ หรือเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปประเภทถอดประกอบได้ กำลังเฟื่องฟู ก็เลยมุ่งเน้นการผลิตไปที่สินค้าสำเร็จรูปที่ถอดประกอบได้โดยตรง

      เฟอร์นิเจอร์ที่คาซามาเนียผลิตออกมาจำหน่าย ส่วนใหญ่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่พวกโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ อุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงาน และเครื่องอำนวยความสะดวกในบ้านเรือนทั้งหมด

      แนวคิดด้านการออกแบบของที่นี่ก็คือ เปิดโอกาสให้นักออกแบบทั่วโลกสามารถส่งผลงาน เสนอขายไอเดียเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่างๆ อย่างเปิดกว้าง ทำให้ได้ผลงานการออกแบบของศิลปินดังจำนวนมากมาผลิตจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นอาร์มแชร์และโซฟาของ Perry King เก้าอี้ชุด TALLE ของ Santiago Miranda เก้าอี้และโคมไฟชุด VAD ของ Luca Nichetto และ Carlo Tinti เป็นต้น

 

      แน่นอนว่า งานส่วนใหญ่เป็นงานโมเดิร์น
      ที่มีสีสันและรูปลักษณ์ทันสมัย โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านการออกแบบและวัสดุที่นำมาใช้ สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่ใช้ชีวิตบนตึกสูง ในพื้นที่แคบลง และต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานอย่างสะดวกสบายมาก่อนเป็นอันดับแรก

      สำหรับโทเบียส ชูเรตเซ็ก เขาได้แนวคิดในการออกแบบโต๊ะเก้าอี้ชุดนี้มาจากเสื้อผ้าและกางเกงเก่าๆ ของเขา โดยมองว่างานศิลปะก็คือสนามเด็กเล่นนี่เอง ใครก็สามารถเอาอะไรมาลองทำเล่นได้หมด เล่นด้วยความสนุกสนานอย่างเต็มที่ จนสุดท้ายก็จะได้งานที่ดีออกมาอย่างคาดไม่ถึง

      สิ่งที่โทเบียสต้องการให้เห็นในงานออกแบบชุดนี้ก็คืออัตลักษณ์หรือตัวตนเจ้าของเก้าอี้ที่มีเสื้อผ้าเก่าเก็บเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวของสีสัน รูปทรง รวมไปถึงเนื้อผ้าและความละเอียดประณีตที่ถูกบีบอัดรวมกันอยู่ในกรอบความคิดใหม่

      นั่นคือเฟรมเก้าอี้และโต๊ะเรียบง่าย แต่เก๋ด้วยความหลากหลายของเสื้อผ้าเก่าที่เอามาบีบอัดขึ้นรูปในแม่พิมพ์ ด้วยวิธีแช่เสื้อผ้าเหล่านั้นในเรซิ่นแล้วหล่อในพิมพ์ที่เตรียมไว้

      เรซิ่น นั้นเป็นโพลีเอสเตอร์หรือพลาสติกชนิดหนึ่ง ปกติจะอยู่ในรูปของเหลวข้นเหนียวเหมือนน้ำมันเครื่อง มีกลิ่นฉุน

      เรซิ่นสามารถหล่อเป็นรูปต่างๆ ได้ตามแบบพิมพ์ โดยจะผสมกับสารเคมีบางอย่างเพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาแข็งตัวและเมื่อแข็งตัวแล้วจะไม่สามารถกลับคืนรูปเป็นของเหลวได้อีก

      ปัจจุบัน เรซิ่นนิยมใช้กันแพร่หลายมากทั้งในงานไฟเบอร์กลาส เฟอร์นิเจอร์ สินค้ากิ๊ฟต์ช็อป ตุ๊กตา เครื่องประดับ กระดุม ฯลฯ

      ลองเอาเรซิ่นมาทำโต๊ะ-เก้าอี้แบบนี้ดูกันนะคะ

      เก้าอี้แห่งความทรงจำนี้รับรองว่าจะไม่มีตัวไหนซ้ำกันเลย แม้ว่าพิมพ์เก้าอี้จะเป็นพิมพ์เดียวกันก็ตาม เพราะสีสันของเสื้อผ้าและรูปทรงของผ้าที่ถูกบีบอัดในแต่ละพิมพ์นั้น ยากที่จะควบคุมให้ออกมาเหมือนกันได้เป๊ะ

      และนั่นก็คือเสน่ห์ของ “Remember me Chair”  ซึ่งดังระเบิดในทันทีที่เปิดตัว

      “Remember me Chair” จะบอกเล่าเรื่องราวและบุคลิกของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไปตามความเก่า ความเก๋า สีสัน และเนื้อผ้าที่ถูกนำมาอัดกันขึ้นเป็นรูปเก้าอี้ สุดท้ายเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องเล่าอันสนุกสนานของแต่ละครอบครัวที่น่าทึ่ง และสามารถเก็บรักษาเป็นมรดกตกทอดสืบต่อถึงคนรุ่นหลังได้

      นี่คือจุดขายของแนวคิดในงานออกแบบชิ้นนี้

      ตอนที่คาซามาเนียผลิตเก้าอี้ตัวนี้ออกมาจำหน่าย ตั้งราคาไว้ที่ตัวละ 600 ยูโร! •