นวัตกรรมเสื้อฝนนักปั่น ยังไงก็ไม่เปียก

ตอนนี้ใครไม่ขี่จักรยานจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มพวกที่เชยเล็กน้อย

ลองมองไปรอบๆตัวดูสิจะเห็นว่าสังคมไทยปัจจุบันเห่อการขี่จักรยานกันทั้งประเทศ เพราะไม่เพียงแต่มีกิจกรรมเกี่ยวกับจักรยานหลากหลายตลอดปีเท่านั้น  แต่ภาครัฐก็ยังให้การสนับสนุนการขี่จักรยานออกกำลังกาย หรือแม้แต่ขี่เพื่อใช้แทนยานพาหนะพาไปตามที่ต่างๆ

จึงไม่แปลกที่มีการส่งเสริมเลนจักรยานสำหรับนักปั่นรุ่นใหม่ให้ได้ไปปั่นที่สนามหรือเลนจักรยาน เช่น ที่กำลังโด่งดังมากๆก็ “Sky Lane” สนามบินสุวรรณภูมิ, สวนรถไฟ, ในหมู่บ้านชวนชื่นฟอร์ล่าวิลล์,ไร่บุญรอด เป็นต้น

แต่ก็ยังมีนักปั่นจำนวนมากออกมาใช้จักรยานบนท้องถนนจริงเพื่อเดินทางไปทำงานหรือไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ เป็นประจำสม่ำเสมอ ทำให้เราได้พบเห็นบรรดานักปั่นอยู่ตลอดปี และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

แน่นอนว่านักปั่นเหล่านั้นจะต้องผ่านฤดูกาลที่ผันแปร วนเวียนกันไปทั้งร้อน ฝน หนาว ซึ่งฤดูกาลที่เป็นอุปสรรคที่สุดสำหรับนักปั่นแข้งทองก็คือฤดูฝนนั่นเอง

ในต่างประเทศที่มีคนใช้จักรยานกันเยอะๆ มีการคิดค้นนวัตกรรมมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการขี่จักรยานและมอเตอร์ไซค์ในหน้าฝน ป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกโชกจะได้ไม่ป่วยง่าย โดยเฉพาะในเมืองจีนมีอะไรแปลกใหม่อยู่เรื่อยในเรื่องกันฝน-กันลมให้กับรถจักรยานและมอเตอร์ไซค์

แต่สำหรับในบ้านเรา นักปั่นยังไม่ค่อยกล้าออกมาท้าฝนนัก ชาว Bike To Work หลายคนถึงกับถอดใจ กลับไปใช้ชีวิตแบบเก่า คือ จอดจักรยานทิ้งเอาไว้ ได้แต่มองด้วยสายตาอาลัย ก่อนจะออกไปทำงานโดยยานพาหนะเดิมๆ เพียงเพราะว่าไม่หาญกล้าที่จะเสี่ยงกับฝน

การปั่นในหน้าฝน สิ่งสำคัญที่สุดของจักรยานที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “บังโคลน” เป็นสิ่งที่ต้องมีกันทุกคันไม่งั้นคนขี่จะเละทั้งหน้าและหลัง เพราะเมื่อฝนหยุดตกแล้วผิวถนนยังมีน้ำเจิ่ง ดังนั้นบังโคลนจึงสำคัญพอๆกับพระเจ้าเลยทีเดียว

มีเพื่อนที่เป็นนักปั่นเล่าให้ฟังว่าฤดูฝนเป็นช่วงที่ปั่นจักรยานได้ยากเย็นที่สุด เพราะความเปียกชื้นเลอะเทอะของฝนฟ้าที่เป็นอุปสรรค แต่หลายคนก็ยังขอปั่นอยู่เหมือนเดิมด้วยใจรัก ยิ่งสมัยนี้มีจักรยานที่ทำด้วยวัสดุจำพวกไทเทเนียม หรือ โครเมียม ก็จะไม่ค่อยมีปัญหากับฝน แค่เช็ดให้แห้งหลังจากใช้แล้วไม่มีปัญหาเรื่องสนิมเกาะ ที่ต้องระวังหน่อยมีแค่โซ่ที่อาจดำง่ายต้องคอยล้างและหยอดน้ำมันบ่อยๆ นอกจากนั้นการปั่นถนนเปียกๆ ต้องให้ช้าลงและระวังกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพราะเวลาฝนตกจะมองไม่เห็นหลุมหรือพื้นที่ขรุขระบนถนน

ส่วนใหญ่นักปั่นหน้าฝนมักจะขี่กันเฉพาะบนทางที่เคยชิน รู้ว่าตรงไหนมีหลุมบ่อ สภาพผิวจราจรแต่ละจุดเป็นอย่างไร  

หลายคนลดการหอบหิ้วของลง  เป้สะพายหลังก็เปลี่ยนมาใช้แบบกันน้ำแทน ในเป้มีเสื้อกันฝนคู่ใจซุกไว้อยู่เสมอ ส่วนหัวถ้าจะให้ดีก็หาหมวกที่มีปีกใส่ไว้ใต้หมวกกันน๊อค ไม่งั้นก็ใส่หมวกกันน๊อคเสือภูเขาเอาไว้บังเวลาฝนสาดเข้าหน้าจะได้มองเห็นชัดๆ ยิ่งถ้ามีแว่นโพลาไรส์เอามาใส่เวลาฝนตกหนักๆจะช่วยได้มาก… แต่ถ้าเจอฝนไล่ช้างคงต้องจอดหลบข้างทางไว้ห่อนเป็นดีที่สุด

ส่วนการที่จะหาเสื้อกันฝนแบบดีๆ มาใช้สักตัวสำหรับคนขี่จักรยานนั้นก็แล้วแต่งบประมาณที่มี เสื้อกันฝนราคาถูกส่วนใหญ่ใช้วัสดุที่ไม่ค่อยทนทานนัก ออกแบบมาสำหรับให้คนใส่เดินถนนกันแบบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้ทำมาสำหรับคนขี่จักรยานโดยเฉพาะ ดังนั้นเรื่องของขนาด  ความสะดวก และความทนทานจึงเป็นปัญหาอยู่

ดังนั้นคนที่ถ้ามีงบประมาณพอมักจะเลือกเสื้อกันฝนแบบกีฬา พวกเสื้อวิ่ง เสื้อปีนเขาที่กันฝนได้ดี(เป็นผ้ากันน้ำแต่ระบายเหงื่อ ใส่แล้วไม่อึดอัด) ซึ่งจะคล่องตัวกว่า ราคาแพงหน่อย เกินหลักพันขึ้น แต่ใช้ได้หลายโอกาส ไม่เทอะทะต้านลม พับเก็บแล้วเหลือเล็กนิดเดียว คุ้มค่ามาก

และล่าสุดมีนวัตกรรมใหม่ของเสื้อคลุมกันฝนตอนขี่จักรยานที่อยากแนะนำให้รู้จัก

2648-160307054533 2648-160307054543

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ Vanmoof ในฐานะจักรยานแบรนด์หนึ่งจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่มีดีไซน์เก๋ไก๋เป็นเอกลักษณ์  วันนี้แวนมูฟได้ออกแบบเสื้อกันฝนรูปแบบใหม่รุ่นพิเศษ มีชื่อว่า “บอนโช” (Boncho) ที่จะช่วยให้นักปั่นสู้ฝนได้อย่างสบายๆ ต่างจากเสื้อกันฝนแบบทั่วไปที่กันฝนได้แค่ช่วงบนแต่ส่วนมือและช่วงขายังเปียกอยู่

ทีมนักออกแบบเสื้อกันฝนนวัตกรรมใหม่ของแวนมูฟคือ เชน ลิว( Shane Liu) และวิคดี้ หลิน( Vicky Lin) ชาวไต้หวันซึ่งได้มาร่วมงานกับแวนมูฟหลังจากที่ทั้งสองได้ทดลองออกแบบเสื้อกันฝนนี้ขึ้นมาจากแนวคิดที่ว่าจะสร้างสรรค์เสื้อกันฝนแบบไหนให้เหมาะกับพื้นที่เมืองใหญ่ที่มีฝนตกบ่อยและต้องใช้งานสะดวกด้วย ในที่สุดก็เกิดเป็นบอนโชขึ้นมา

จุดเด่นของบอนโช คือวัสดุที่นำมาใช้ซึ่งมีน้ำหนักเบา เหนียว ทนทาน และกันน้ำ กับวิธีนำออกมาใช้งานที่ทำให้เป็นแบบป๊อบอัพกางออกได้เองทันที เมื่อใช้เสร็จก็มีถุงซิปในตัวให้ม้วนพับเก็บได้สะดวกง่ายดาย

Boncho ถูกออกแบบให้พื้นที่ด้านบนสามารถป้องกันฝนได้จากรอบทิศทาง โดยที่ด้านล่างเปิดโล่ง ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ร้อน ไม่อึดอัด พื้นผิวของวัสดุมีคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 100% และที่เจ๋งมากสำหรับ บอนโชก็คือการออกแบบให้มีจุดป้องกันฝนสาดจากด้านหน้า สามารถคลุมบริเวณแขนมือและแฮนด์รถจักรยานไม่ให้เปียกฝนที่สาดมาจากทางด้านหน้าได้ด้วย

เสื้อกันฝน Boncho  มีน้ำหนักเบา น้ำไม่เกาะผิววัสดุ อากาศถ่ายเทสะดวก ใช้สะดวกสามารถพับเก็บง่ายให้เหลือขนาดเล็กอีกนิดเดียว เมื่อพับแล้วก็แขวนไว้ในจักรยานได้หรือไม่ก็เอาใส่กระเป๋าพกพาไปไหนแต่ไหนได้สะดวก แถมยังใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นการใส่แถบสะท้อนแสงไว้บนเสื้อกันฝนด้วย ทำให้ปลอดภัยแม้ว่าจะใช้ในยามค่ำคืน

2648-160307054731

ราคาจำหน่ายของบอนโชประมาณ  55 ยูโร หรือราวๆ 2,135 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีมิ้นต์กับสีเทา

เชื่อว่าข่าวนี้คงทำให้นักปั่นหลายคนยิ้มออก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลเพิ่งออกกฎหมายเมื่อปี 2552 ห้ามไม่ให้คนขี่จักรยานถือร่มในระหว่างถีบจักรยาน  มิฉะนั้นจะถูกปรับถึง 50,000 เยน โดยเริ่มบังคับใช้สำหรับชาวโตเกียวและเขตปริมณฑลก่อน

ส่วนใครอยากเป็นเจ้าของคงต้องหาซื้อทางออนไลน์นะคะ