ผู้เขียน | สุมิตรา จันทร์เงา |
---|---|
เผยแพร่ |
“เกาะปันหยี” หมู่บ้านกลางน้ำในจังหวัดพังงา เป็นชุมชนที่มีผู้คนอยู่อาศัยมานานจนมีการขยับขยายปลูกสร้างบ้านเรือนติดๆ กันเป็นพืด ขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอ่าวพังงามาแต่ไหนแต่ไร
ชีวิตผู้คนในถิ่นที่อยู่อาศัยกลางทะเลที่นี่เรียบง่าย มองไปทางไหนก็มีแต่ท้องฟ้า ทะเลกว้าง ห่างไกลความเจริญ ความสนุกสนานเพลิดเพลินสำราญใจคงมีกันอยู่ไม่กี่อย่าง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากีฬาฟุตบอล คือ กีฬายอดฮิตอันดับหนึ่งที่แพร่หลายไปทั่วโลก แม้ว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดมาเป็นชาวเกาะ ไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะทำสนามฟุตบอลใหญ่ๆ ระดับมาตรฐาน แต่ก็ใช่ว่าชาวเกาะจะไม่มีสิทธิ์ลิ้มรสชาติของเกมลูกหนัง!
หลายสิบปีก่อน เด็กชายกลุ่มหนึ่งมีใจรักฟุตบอล ฝันอยากเล่นเก่งเหมือนเปเล่ ซิโก้ แห่งบราซิล แต่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย มีแต่ภูเขากับทะเล พวกเขาอาศัยเล่นตามชายหาดเวลาน้ำลงบ้าง ต่อมาก็หาเศษไม้มาต่อเป็นแพปลาแล้วเตะเล่นกันบนแพเสียเลย จนพัฒนามาเป็นสนามคอนกรีตก่อสร้างกลางทะเล 2 สนาม
ปัจจุบัน ยังมีสนามที่เป็นโป๊ะพลาสติกลอยน้ำอีก 1 สนาม ทำให้ความฝันของเยาวชนเหล่านี้เป็นจริง หากมองมุมสูงจะสวยงามมากเป็นสนามฟุตซอลที่ลอยอยู่กลางทะเล
นักท่องเที่ยวที่ขึ้นเกาะปันหยีทุกคน ต้องเดินเที่ยวไปให้ถึงสนามฟุตบอลลอยน้ำเสมือนว่าหากขึ้นเกาะปันหยีแล้วไม่ได้มาดูสนามกลางน้ำแห่งนี้ เท่ากับไม่ถึงเกาะ
และนักเตะเยาวชนสโมสร “ปันหยีเอฟซี” ก็สัมผัสแชมป์มาแล้วหลายรายการ
สำหรับสนามฟุตบอลลอยน้ำนี้ได้รับความสนใจจากเด็กๆ ในหมู่บ้านอย่างมาก ทุกวันหลังเลิกเรียน เด็กจะมารวมตัวกันเพื่อเล่นฟุตบอล เวลาเล่นบอลหากใครเตะฟุตบอลออกจากสนาม ก็ต้องกระโดดลงไปเก็บลูกฟุตบอลในน้ำขึ้นมา ซึ่งเป็นอย่างนี้บ่อยมาก
สนามฟุตบอลลอยน้ำแห่งนี้ คือหนึ่งในผลพวงของความคิดสร้างสรรค์จัดการแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ได้อย่างฉลาดสุดๆ
วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสนามฟุตบอลลอยน้ำสร้างขึ้นง่ายๆ โดยใช้ไม้ไผ่และทุ่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาแบบดั้งเดิมเป็นที่รองพื้นสนาม ส่วนพื้นสนามเดิมนั้นทำด้วยไม้ แต่ภายหลังได้มีการปรับปรุงเป็นคอนกรีตอย่างดี ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดีมากยิ่งขึ้น
ทีนี้ นักฟุตบอลท้องถิ่นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ไม่ต้องรอให้น้ำลงแล้วไปเตะบอลบนชายหาดอีกต่อไป
ส่วนสนามลอยน้ำอันโด่งดังนั้นทำจากโป๊ะพลาสติก นำมาผูกต่อกันให้แน่นเป็นรูปสนาม พร้อมทางเดินลงไปสู่สนามที่ทำด้วยทุ่นพลาสติกแข็งแรงเช่นกัน สร้างอยู่ที่ท้ายเกาะซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีหมู่เกาะหินปูนเป็นฉากหลังสวยงามตระการตา
ด้วยสนามลอยน้ำแห่งนี้ เด็กๆ จะเตะบอลกันตอนไหนก็ได้ตามที่ต้องการ แถมยังได้ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำไปเก็บลูกบอลเพิ่มด้วย หากเตะตู้มเลยสนามลงน้ำไป
ไม่ต้องเดาเลยว่าการเตะบอล ณ สนามมหัศจรรย์แห่งนี้จะน่าเพลิดเพลินใจขนาดไหน
ไม่ต้องไปไกลถึงโอลด์ แทร็ฟอร์ด, แอนฟิลด์ ก็ฟินได้
เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงยังจำโฆษณาของธนาคารทหารไทยเมื่อประมาณหลายปีก่อนมาแล้ว เล่าเรื่องสนามฟุตบอลลอยน้ำแห่งนี้ ซึ่งสร้างสรรค์โดยทีมงานโฆษณา บริษัท ลีโอเบอร์เน็ตกรุ๊ป ประเทศไทย
โฆษณาชิ้นนี้ทำให้ทีมปันหยีและสนามฟุตบอลของเขาเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลก แถมยังมีทีมฟุตบอลจากต่างประเทศบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาดวลแข้งกับพวกเขา ณ สนามฟุตบอลลอยน้ำแห่งนี้ที่สร้างจากความฝันเล็กๆ ของคนบนเกาะที่สู้ไม่ถอย
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ สนามฟุตบอลลอยน้ำเกาะปันหยี ถูก ททท.จับไปยกย่องให้เป็น Unseen Thailand ไปเรียบร้อย
ดังนั้น ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากซีกไหนของโลก หากได้ไปเยือนเกาะปันหยี ก็ต้องไปชักภาพไว้เป็นที่ระลึกกับสนามฟุตบอลลอยน้ำอันโด่งดัง ซึ่งปัจจุบันถูกบรรจุไว้ในโปรแกรม must-see attraction ของไกด์บุ๊กและโปรแกรมทัวร์มานานแล้ว
ล่าสุดเมื่อปี 2555 เว็บไซต์ข่าว metro.co.uk ของอังกฤษได้นำเสนอภาพสนามฟุตซอลลอยน้ำที่เกาะปันหยี จังหวัดพังงา ยกย่องให้เป็นฉากสวยงามที่สุดในโลกฉากหนึ่ง สร้างความฮือฮาไปทั่ว
นอกจากนั้นยังได้รับการชื่มชมจาก “A World Of Football” ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านฟุตบอลที่ไม่แสวงหาผลกำไร ว่าสนามฟุตบอลลอยน้ำนี้ช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่อยากเล่นฟุตบอลทั่วโลกด้วย เพราะมีความสวยงามไม่เหมือนใคร สร้างขึ้นมาจากความหลงใหลในกีฬาลูกหนังของชาวทะเล ที่แม้ไม่มีพื้นที่บนบกมากพอก็ยังได้สร้างสนามฟุตบอลบนน้ำขึ้นมาจนได้
ทุกวันนี้ สนามฟุตบอลลอยน้ำ กลายเป็นขวัญใจของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลังโรงเรียนเลิก เด็กชาวเกาะปันหยีจะพากันมาเล่นบอลที่พวกเขาชื่นชอบท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ทอประกายบนผิวน้ำงามระยับ
เมื่อไปเห็นมากับตาตัวเองแล้วต้องยอมรับว่า นี่คือสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลกจริงๆ