เผยแพร่ |
---|
เงินเดือนไม่ปรับขึ้น ไม่เติบโตในอาชีพ หมดไฟในการทำงาน รู้จักเทรนด์ปี 2025 “ลาออกเพื่อแก้แค้น”
‘ลาออกจากงาน’ ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงาน ตามเหตุผลส่วนตัวของแต่ละบุคคล
บางคนลาออกเพราะได้งานใหม่ที่ถูกใจ ได้สวัสดิการที่ชอบ บางคนลาออกเพราะอยากเติบโต ทั้งในแง่ของสกิลการทำงานหรือฐานเงินเดือนที่ขยับขึ้น หรือบางคนลาออกเพราะอยากไปทำงานใกล้บ้าน
แต่ในปี 2025 นี้ กลับมีเทรนด์ที่เรียกว่า ‘ลาออกเพื่อแก้แค้น’ (Revenge Quitting)
การลาออกเพื่อแก้แค้น กำลังเป็นที่นิยมมากๆ ในอเมริกา คือการที่พนักงานตัดสินใจลาออกอย่างกะทันหัน จากความไม่พอใจในสภาพการทำงาน หรือเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายของบริษัท เช่น การบังคับให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ การขาดการยอมรับ หมดไฟในการทำงาน หรือการรู้สึกไม่ผูกพันกับวัฒนธรรมองค์กร เป็นต้น
โดยผลสำรวจของ Gallup บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติอเมริกัน พบว่า พนักงานประจำมองว่าการลาออกเป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุดในปี 2025 ส่วนพนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดมีแนวโน้มลาออกเพื่อแก้แค้นมากที่สุด
สำหรับกลุ่มที่มีแนวโน้มลาออกเพื่อแก้แค้นมากที่สุด ได้แก่ พนักงานการตลาดและโฆษณา, พนักงานไอทีและเทคโนโลยี, พนักงานแบบไฮบริด, พนักงานสื่อและบันเทิง และผู้จัดการ
ส่วนเหตุผลที่พนักงานวางแผนลาออกเพื่อแก้แค้นในปีนี้ พบว่า เพราะพนักงานรู้สึกผิดหวังจากเงินเดือนที่ต่ำหรือไม่มีการปรับเงินเดือน รองลงมารู้สึกโดนดูถูก และขาดโอกาสในการเติบโตในอาชีพ
นอกจากนี้ ยังรู้สึกว่าขาดความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้พนักงานที่ทำงานแบบ On-site ที่ต้องเข้าออฟฟิศ ต้องการวันหยุดพักผ่อนเพิ่มขึ้น และพบว่าพนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดอยากทำงานแบบ Remote อย่างถาวรมากที่สุด หรือการทำงานที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตในการสื่อสาร ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศหรือเดินทางไปทำงานทุกวันคล้ายๆ กับการทำงานแบบไฮบริด
และพบว่า เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่มีความต้องการโบนัสตามผลงานมากที่สุด ขณะที่พนักงานระดับสูงต้องการโอกาสในการพัฒนาอาชีพ และต้องการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานให้ดีขึ้น โดยกลุ่มที่มีแนวโนมวางแผนลาออกจากงานน้อยที่สุด คือ Baby Boomers
อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.forbes.com/sites/bryanrobinson