เผยแพร่ |
---|
“วิมานหนาม” กฎหมายไทยพร้อมแค่ไหน กับธุรกิจของคู่รักเพศเดียวกัน?
การทำธุรกิจร่วมกับคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นชาย-หญิง หรือคู่รัก LGBTQ+ ก็ตาม ล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นการร่วมกันสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยกันแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การทำธุรกิจร่วมกับคนที่เรารัก อาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด และยังมีปัจจัยต่างๆ นำมาซึ่งความขัดแย้งบางประการก็เป็นได้ หากไม่มีการเตรียมพร้อมหรือวางแผนอย่างรอบคอบ
ภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิทางกฎหมาย สิทธิทางสังคม หรือแม้กระทั่งความเท่าเทียมทางเพศ เนื้อหาในภาพยนตร์ล้วนสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกันระหว่างคู่รักเพศทางเลือก ที่ในบางครั้งเส้นทางของธุรกิจอาจไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่อาจจะโรยไปด้วยหนามทุเรียนก็เป็นได้
เรื่องย่อของภาพยนตร์ “วิมานหนาม” จากเว็บไซต์ majorcineplex เล่าว่า
ทองคำ ที่นำแสดงโดย เจฟ ซาเตอร์ และ เสก (เต้ย พงศกร) คู่รักต่างเพศที่ทุ่มเทสร้างชีวิตขึ้นมาด้วยกัน ทั้งคู่เป็นเจ้าของบ้านและสวนทุเรียนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่เรื่องเศร้าเกิดเมื่อ เสก จากไปกะทันหันจากอุบัติเหตุ และความจริงที่ว่าทั้งสองไม่เคยแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมายของประเทศไทย กลายมาเป็นปัญหาที่ทำให้ ทองคำ ไม่มีสิทธิในทรัพย์สินที่ร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน จึงทำให้บ้านและสวนทุเรียนตกเป็นของแม่ และ ลูกสาวบุญธรรม ย้ายเข้ามาอยู่ทำให้ ทองคำ ต้องต่อสู้เพื่อทวงคืนสิ่งที่เป็นนํ้าพักนํ้าแรงที่เขาและอดีตคนรักร่วมสร้างขึ้นมา
จากเนื้อหาของภาพยนตร์ทำให้กลับมาคิดว่า ในประเทศไทย หากคู่รักเพศทางเลือก คิดอยากจะมีธุรกิจร่วมกัน จะต้องเริ่มต้นหรือดำเนินการอย่างไร เพื่อในอนาคตหากเกิดปัญหา เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จึงขอมาแนะนำผู้อ่านทุกท่าน เกี่ยวกับเรื่องนี้ และในภาคฝั่งของกฎหมายไทยพร้อมแค่ไหนกับธุรกิจของคู่รักเพศเดียวกัน? เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ไม่ให้เกิดปัญหาในภายภาคหน้า
คู่รัก LGBTQ+ อยากทำธุรกิจร่วมกัน ต้องทำอย่างไร
อย่างที่บอกว่า การทำธุรกิจเป็นความฝันของหลายๆ คู่ แต่ในบริบทของ คู่รักเพศทางเลือก อาจจะมีข้อจำกัดและความท้าทายบางประการ หากอยากจะทำธุรกิจร่วมกันต้องศึกษาและเรียนรู้แนวทางในการเริ่มต้นธุรกิจที่คู่รักเพศทางเลือกสามารถทำได้ โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
1. จดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.)
เป็นรูปแบบธุรกิจที่นิยมใช้กัน เนื่องจากสามารถจดทะเบียนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสถานะทางกฎหมายเป็นคู่สมรส เป็นรูปแบบหนึ่งของนิติบุคคลที่เกิดจากการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาผลกำไร โดยที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะมีความรับผิดจำกัดเพียงจำนวนเงินที่ตนได้ลงทุนเท่านั้น
2. จดทะเบียนบริษัทจำกัด
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ความเป็นอิสระในการบริหารจัดการธุรกิจ แต่มีความซับซ้อนในการดำเนินการมากกว่า เพราะเป็นรูปแบบหนึ่งของนิติบุคคลที่ถูกกฎหมายรับรอง โดยมีลักษณะเด่นคือ ความรับผิดจำกัด ของผู้ถือหุ้น หมายความว่า หากบริษัทมีหนี้สิน ผู้ถือหุ้นจะต้องรับผิดชอบหนี้สินของบริษัทเพียงเท่ากับจำนวนเงินที่ตนได้ลงทุนไปในหุ้นเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบด้วยทรัพย์สินส่วนตัว
3. จัดทำพินัยกรรม
สำหรับคู่รักเพศเดียวกัน ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส สามารถจัดทำพินัยกรรมเพื่อระบุว่าทรัพย์สินของธุรกิจจะตกเป็นของใครในกรณีที่คู่ชีวิตเสียชีวิตก็ได้
ดังตามความในมาตรา 1646 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ระบุ
“บุคคลใดจะแสดงเจตนาโดยพินัยกรรมกำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินของตนเอง หรือในการต่างๆ อันจะให้เกิดเป็นผลบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อตนตายก็ได้”
สำหรับเหตุผลที่ควรทำพินัยกรรมนั้น มีผลดีที่ประกอบด้วย
- ความชัดเจน : การทำพินัยกรรมจะทำให้ความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์สินหลังเสียชีวิตมีความชัดเจน ลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ความมั่นใจ : คู่ชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้รับความมั่นใจว่าจะได้รับทรัพย์สินตามที่คู่ชีวิตตั้งใจไว้
- หลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย : การมีพินัยกรรมจะช่วยให้การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินหลังการเสียชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ควรระวัง เมื่อทำพินัยกรรม
- รูปแบบของพินัยกรรม : พินัยกรรมมีหลายรูปแบบ เช่น พินัยกรรมธรรมดา พินัยกรรมที่มีพยาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อเลือกแบบที่เหมาะสม
- รายละเอียดในพินัยกรรม : ควรระบุรายละเอียดของทรัพย์สินที่ต้องการมอบให้ชัดเจน รวมถึงชื่อ-นามสกุลของผู้รับมรดก
- การลงนามและการเป็นพยาน : ควรลงนามในพินัยกรรมต่อหน้าพยานตามที่กฎหมายกำหนด
- การเก็บรักษาพินัยกรรม : ควรเก็บรักษาพินัยกรรมไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย และแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงสถานที่เก็บรักษา
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม
- ประกันชีวิต : การทำประกันชีวิตและระบุคู่ชีวิตเป็นผู้รับผลประโยชน์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คู่ชีวิตได้รับเงินก้อนหนึ่งในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด
- การตั้งผู้จัดการมรดก : การตั้งผู้จัดการมรดกจะช่วยในการดำเนินการตามพินัยกรรมและดูแลทรัพย์สินหลังการเสียชีวิต
แม้ในปัจจุบัน วันที่ 18 มิ.ย. 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เกี่ยวกับเรื่อง “สมรสเท่าเทียม” โดยในขณะนี้ยังต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้สามารถใช้บังคับได้หลังประกาศในราชกิจจาฯ 120 วัน เรียกได้ว่าเป็นแนวโน้มและข่าวดีสำหรับคู่รักเพศทางเลือก ที่ในอนาคตจะสามารถทำธุรกิจร่วมกันได้ และมีกฎหมายรับรองอย่างเท่าเทียม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต
และสำคัญ คู่รักจึงควรต้องติดตาม ศึกษาในข้อกฎหมาย ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ควรติดตามข่าวสารและปรับตัวให้ทัน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ คู่รักเพศทางเลือกควรศึกษาข้อมูลกฎหมายให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผน ด้านกฎหมาย ธุรกิจ และภาษี จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ในแต่ละฝ่ายในฐานะผู้ประกอบการได้อย่างชัดเจน
และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้ครบถ้วน เช่น สัญญาหุ้นส่วน ข้อบังคับบริษัท จะช่วยป้องกันปัญหาในอนาคต
แม้ว่ากฎหมายไทย จะเปิดกว้างมากขึ้น แต่การเริ่มต้นธุรกิจร่วมกันของคู่รักเพศเดียวกันยังคงมีความซับซ้อนและต้องใช้ความระมัดระวัง การวางแผนที่ดีและการเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ไปรอดให้ได้นาน และจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นเหมือนดั่งในภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” อีกต่อไป