อยู่ในธุรกิจแบบเดิมไม่ได้แล้ว? SMEs ต้องปรับตัวอย่างไร ในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนไว เพื่อความอยู่รอด

เมื่อปรมาจารย์การตลาดระดับโลกบอกว่า “ถ้าเรายังอยู่ในธุรกิจแบบเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลง ภายใน 5 ปี ก็จะไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป” คำกล่าวทิ้งท้ายของศาสตราจารย์ฟิลิป คอตเลอร์ ในงาน World Marketing Forum ครั้งที่ 3 จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จับมือกับสหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2566

สาเหตุหรือครับ? เพราะโลกกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคการตลาดเสมือนจริงอย่างไม่อาจปฏิเสธ สิ่งนี้อาจทำให้หลายคนถึงขั้นอุทานเบาๆ ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ถ้าเอ่ยชื่อของ ศาสตราจารย์ฟิลิป คอตเลอร์ ในแวดวงการตลาดคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะท่านนี้ถือเป็นหนึ่งในกูรูด้านการตลาดตัวพ่อระดับโลกชาวอเมริกัน ปัจจุบันอายุอานามปาเข้าไป 92 ปีแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความแหลมคมทางความคิด และมุมมองทางการตลาด

หนังสือเล่มล่าสุดในปี 2566 ที่มีชื่อเป็นผู้แต่งร่วม คือ Marketing 6.0 The Future is Immersive. ซึ่งเป็นเรื่องราวของการตลาด ที่ธุรกิจทั้งโลกกำลังจะต้องเผชิญหน้า

การตลาดเสมือนจริง

Immersive Marketing คือ การตลาดเสมือนจริง ที่หลอมรวมเทคโนโลยีต่างๆ มาทำให้ผู้บริโภคดื่มด่ำไปกับโลกเสมือน

เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ให้ผู้คนเคลิ้มได้มากมาย จนกระทั่งเผลอหลงเชื่อไปว่า สิ่งเหล่านั้น มีอยู่จริง บางอย่างก็อาจรู้ว่าไม่ใช่ของจริง แต่สามารถมาหลอมรวมอยู่กับของจริงได้ จนเราไม่สามารถปฏิเสธความไม่มีอยู่จริงนั้นได้

เทคโนโลยี ที่อาจคุ้นเคยชื่อกันอยู่บ้าง เช่น VR (Virtual Reality) การสร้างภาพเสมือนจริงผ่านอุปกรณ์อย่างเช่น แว่น VR ที่สวมใส่ แล้วภาพที่ปรากฏสร้างความรู้สึกประหนึ่งว่านำพาเราเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนนั้น

AR (Augmented Reality) เทคโนโลยีที่นำเอาภาพเสมือนจริง เข้ามาผสมผสานกับของจริง ภาพจริงที่เราสามารถดูผ่านอุปกรณ์ธรรมดาสามัญที่ใช้งานอยู่ได้ เช่น เราถ่ายภาพที่ใช้กล้องจากสมาร์ทโฟนปกติ แต่สามารถนำเอาภาพเสมือนเข้าไปปรากฏรวมอยู่ในภาพได้

เอาง่ายๆ อะไรที่เราเคยเห็นในหนังไซไฟทั้งหลาย ไม่ใช่เรื่องขี้โม้อีกต่อไป เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในโลก และถูกนำมาใช้ประโยชน์มากมายในหลายวงการ ไม่ได้จำกัดแค่แวดวงวิทยาศาสตร์เท่านั้น

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้น คือ “แวดวงธุรกิจ”

เมื่อธุรกิจนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ บางส่วนข้องเกี่ยวกับกระบวนการผลิต เช่น สร้างแบบจำลองของสินค้าที่กำลังจะสร้างขึ้น แล้วก็ทดลองดูผ่านภาพเสมือนจริง เพื่อหาข้อบกพร่อง หรือสิ่งที่ต้องต่อเติมแก้ไขได้ก่อนกระบวนการผลิตจริง

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกส่วนหนึ่งถูกนำมาใช้ในเรื่องเกี่ยวกับ “การตลาด”

ดังนั้น การที่กูรูระดับโลกออกมาบอกว่า The Future is Immersive เป็นเรื่องที่คนค้าคนขาย คงต้องเปิดใจรับรู้ว่า โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเร็วขึ้นเหลือเกิน

ธุรกิจ คงปฏิเสธเทคโนโลยีได้ยาก

มีหลากหลายธุรกิจ ที่สามารถนำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้งานได้ โลกเสมือน การหลอมรวมเทคโนโลยี การเชื่อมต่อข้อมูลและประมวลผลแบบเรียลไทม์ ล้วนสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคทั้งสิ้น

SMEs ต้องเข้าหาเทคโนโลยี

แต่ถ้าเราเป็นธุรกิจเล็กๆ เราเป็นแค่ SMEs สิ่งแรกที่ต้องรีบทำ คือ “การเข้าไปหาเทคโนโลยีให้มากขึ้น”

ผู้ค้าผู้ขายบางคนปฏิเสธเทคโนโลยี แน่นอนว่าขายได้แหละ แต่ในอนาคตคงลำบากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ยอมรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าบ้างตามสมควร

อาจเริ่มต้นด้วยเทคโนโลยีง่ายๆ ไม่ซับซ้อนก่อน เช่น สมัยนี้ใครๆ เขาก็ต้องมีระบบการโอนเงินชำระค่าสินค้า ตั้งแต่โควิดระบาด การลดสัมผัส ทำให้ระบบการโอน การจ่ายผ่าน QR Code เป็นที่ยอมรับทั้งคนซื้อและคนขาย

ร้านอาหาร อีกไม่นานเมนูแบบเป็นเล่มๆ ก็คงค่อยๆ สูญพันธุ์ เพราะเมนูแบบให้สแกน QR Code คงมาแทนที่ วิธีการนี้ ช่วยประหยัดคนในการให้บริการ ไม่ต้องถือเมนูไปวางให้ลูกค้า แล้วต้องเสียเวลายืนรอจด วางเมนูแล้วยืนรอเลย ลูกค้าก็เครียด รู้สึกโดนกดดัน วางแล้วหายหน้าไปนานค่อยมาจดออร์เดอร์ ก็หาว่าไม่ใส่ใจ วาง QR Code ไว้ทุกโต๊ะ แล้วสแกนเอง กดสั่งปุ๊บ เมนูวิ่งไปโผล่ในครัวเลยทันที พนักงานไม่ต้องเสียเวลาเดินไปส่งออร์เดอร์ในครัว หากสั่งพลาด มาจากลูกค้าพลาด ไม่ใช่พนักงานจดผิด

ลูกค้าเยอะ ก็ไม่ต้องกลัวว่าพนักงานจะลืมส่งออร์เดอร์ เพราะมัวแต่ไปจดโต๊ะอื่น เพราะเมนูโผล่ในครัวทันที ปรุงตามคำสั่งได้ทันที เร็วขึ้น ตัดบางขั้นตอนไปได้ ประหยัดทั้งเวลา และค่าจ้างพนักงาน ลดคนลงได้ แก้ปัญหาพนักงานมีจำนวนมากกว่าลูกค้า

ในเมื่อปรมาจารย์การตลาดระดับโลกบอกว่า ถ้าเรายังอยู่ในธุรกิจแบบเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลง ภายใน 5 ปี ก็จะไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป ฟังแล้วใจหายนะครับ เพราะระยะเวลา 5 ปี ไม่นานเลย ยังจำโควิดได้ไหมครับ มันเริ่มต้นเกิดเมื่อ 2562 นี่ผ่านไป 4 ปีแล้ว เร็วใช่ไหมล่ะครับ

แม้โลกกำลังเดินทางไปสู่การตลาดแบบโลกเสมือนจริง แม้ธุรกิจของเราอาจดูห่างไกลกับการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าด้วยเทคโนโลยีเหล่านั้น แต่อย่างแรกที่เราต้องรีบทำ คือ การเปิดใจยอมรับ ไม่กลัวเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเป็นไป…