“แม็คยีนส์” ยีนส์ของคนไทย ยอดขายปีละ 4 ล้านตัว ฝ่าวิกฤตปี 40 มาได้อย่างน่าทึ่ง!!

ผู้เขียน :  วิมล ตัน นิตยสารเส้นทางเศรษฐี

เมื่อกลางปี 2558 นิตยสารเส้นทางเศรษฐีเคยนำเสนอเรื่องราวของกางเกงยีนส์ ต้นสายปลายเหตุก็เนื่องจากผลวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคใน 10 ประเทศทั่วโลก ประจำปี 2557 (ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศด้วย) ซึ่งจัดทำโดยบริษัท คอตตอน ยูเอสเอ บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเส้นใยแห่งหนึ่งของโลก

ผลวิจัยชี้ชัดว่า คนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้นิยมชมชอบการช็อปปิ้ง โดยผู้ตอบแบบสอบถามถึง 60 เปอร์เซ็นต์ชอบการช็อปปิ้ง และกว่า 58 เปอร์เซ็นต์มีการซื้อเสื้อผ้าเดือนละครั้ง หรือมากกว่า แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือ ยีนส์ถือเป็นกางเกงยอดฮิตครองใจนักช็อปทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะนักช็อปคนไทยจะมีกางเกงยีนส์เฉลี่ยคนละ 11 ตัว

เรียกว่า ใส่ได้ไม่ซ้ำเป็นสัปดาห์กันเลย!!

ถามถึงยีนส์ยี่ห้ออะไรบ้างที่ครองใจคนรักยีนส์เมืองไทย จะพบว่า ล้วนแต่เป็นยี่ห้อคุ้นหู แต่ที่น่าดีใจ ก็คือ มีหลายชื่อที่เป็นแบรนด์ของคนไทย ฝีมือคนไทย และน่าปลื้มที่หลายยี่ห้อ เริ่มขยายตัวออกไปสร้างชื่อเสียงในตลาดต่างประเทศกันแล้ว

หนึ่งในนั้น ก็คือ แม็คยีนส์ (Mc Jeans)

แม็คยีนส์ เป็นยีนส์ฝีมือคนไทย ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วถึง 4 ทศวรรษ โดยเริ่มต้นเมื่อปี 2518 คุณสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ช่วง 10 ปีแรกของแม็ค ถือเป็นช่วงการก่อร่างสร้างตัว ซึ่งแน่นอนว่า ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่นทั่วไป ช่วงแรกทำธุรกิจหลักในการผลิตยีนส์ป้อนให้กับแบรนด์ดังจากต่างประเทศ กระทั่งสั่งสมประสบการณ์มากพอ มาสู่การสร้างแบรนด์กางเกงยีนส์ของตนเอง ภายใต้ชื่อ แม็ค ประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะในยุคแรกๆ มียีนส์แบรนด์ไทยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ยี่ห้อ การแข่งขันยังไม่มากนัก ทำให้แม็คยีนส์ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ได้สวยงาม สามารถขยายชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และมีสินค้ากระจายอยู่ทั่วทุกภาค

แต่พอเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 แม็คยีนส์ประสบกับปัญหาอีกครั้ง เมื่อประเทศไทยเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตก เมื่อปี 2540 ยอดขายลดลงกว่าครึ่ง รายได้ลดฮวบ แต่แม็คกรุ๊ปกัดฟันฝ่าวิกฤตด้วยการพยายามรักษาพนักงาน ไม่ลดคน ไม่ลดกำลังการผลิต แต่ใช้วิธียอมเฉือนกำไร เพื่อรักษาฐานยอดขายและพนักงานเอาไว้ให้ได้ จนทำให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤตกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ และเริ่มต้นรุกธุรกิจด้วยการเปิดร้านจำหน่ายของตนเอง หรือ Free-standing Shop เป็นช่องทางขายที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มแบรนด์ เพิ่มเซ็กเมนต์สินค้าเพื่อให้สามารถเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้น เพิ่มสินค้ารองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แม็คเลดี้ (Mc Lady) สำหรับผู้หญิงวัยทำงาน แม็คพิ้งค์ (Mc Pink) สำหรับผู้หญิงที่ชื่นชอบแฟชั่น แม็คมินิ (Mc mini) สำหรับเด็ก หรือ แม็คที (Mc T) และแบรนด์ใหม่อย่าง Bison เสื้อผ้าสำหรับผู้ชายวัยรุ่นในวันพักผ่อนสบายๆ

และจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกก้าว ก็คือ การขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศ มีการขยายตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย และเปิดช็อปแล้วกว่า 20 แห่งในหลายประเทศ อาทิ เมียนมา เวียดนาม ลาว และกัมพูชา นอกจากนี้ แม็คกรุ๊ปยังได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงบริษัทจากธุรกิจเล็กๆ ไปสู่การเป็นธุรกิจมหาชน

ถึงวันนี้ แม็คยีนส์ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 ด้วยยอดขายถึงปีละ 4 ล้านตัว และเชื่อได้ว่า ยอดขายคงไม่หยุดอยู่ตรงนี้ แต่จะยิ่งเติบโต เติบใหญ่ต่อไปเรื่อยๆ

นี่คือ ยีนส์ ฝีมือคนไทย!!

 

ขอบคุณภาพ จาก mcjeans.com/