หลายคนคงยังจำข่าวกันได้ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ทดสอบขับรถยนต์ไฟฟ้า โดยผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำคณะเข้าพบเพื่อจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ

รถไฟฟ้าต้นแบบคันนี้เป็นรถยนต์ขนาด 4 ที่นั่ง ไซซ์เล็กที่สุดในโลก ซุ่มทำมาอย่างเงียบๆ มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับกระแสข่าวก่อนนี้ที่ระบุว่าอาจจะได้ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยในราคาราวคันละ 300,000-400,000 บาท ซึ่งถ้าหากทำได้ราคานี้รับรองว่าขายเป็นเทน้ำเทท่าแน่

จุดเด่นของรถคันนี้ คือ คุณสมบัติคล้ายรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกนั่น วิ่งได้ทั้งบนบกและแล่นในน้ำ โดยเมื่ออยู่ในน้ำการทำงานจะคล้ายเรือ สิ่งที่ต่างจากรถยนต์คือพวงมาลัยที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่ใช้วิธีบังคับแบบคันบังคับเครื่องบินเจ็ต เป็นก้านไม่ใช่พวงมาลัยวงกลม

รถต้นแบบคันนี้เป็นความร่วมมือของสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สนใจทำงานวิจัยนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในเมืองไทย เพื่อทดสอบว่าวิ่งแล้วมีประสิทธิภาพอย่างไร ผู้คนชอบหรือไม่ และต้องปรับปรุงฟังก์ชั่นอะไรบ้าง โดยมีการมาพูดคุยกับทางผู้บริหารของ FOMM Corporation บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในญี่ปุ่น

FOMM Corporation เป็นบริษัทที่มี คุณฮิเดโอะ ทซึรุมากิ วิศวกรที่เคยผ่านงานบริษัทค่ายรถขนาดใหญ่ หันมาเปิดบริษัท และดำรงตำแหน่งประธานบริษัท โดยบริษัทมีพนักงานประจำเพียง 5 คน และมีการว่าจ้างเอาต์ซอร์ซข้างนอกมาช่วยเสริม

ความคิดสร้างรถยนต์ลอยน้ำของเขามาจากเหตุการณ์สึนามิปี 2011 เพื่อหวังใช้หนีอันตรายด้วยรถ ซึ่งคุณฮิเดโอะ ทซึรุมากิ เป็นห่วงมารดาที่อายุมากและขาไม่ดี กลัวว่าหากเกิดสึนามิขึ้นมาอีกแล้วจะหนีไม่ทันก็เลยออกแบบรถลอยน้ำได้ขึ้นมา

จากประสบการณ์เคยทำงานบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่มาก่อน พอจะทำธุรกิจเองเขาจึงอยากทำเล็กๆ ให้เป็นรถเพื่อครอบครัว ใช้พลังงานไฟฟ้า ดีต่อสิ่งแวดล้อม จึงลงมือทำงานคิดค้นวิจัยรถไฟฟ้ากับโรงงานประเทศไทยด้วย

รถต้นแบบรุ่นแรกถูกผลิตออกมาในชื่อ Fomm CONCEPT One พวงมาลัยเป็นแบบคันบังคับเครื่องบินเจ็ต มีระบบเบรกและคันเร่งที่มือ ระบบเกียร์แบบกดปุ่ม การขับขี่ใช้บิดอย่างเดียว ใช้การบิดและเบรกเหมือนขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยล้อออกแบบพิเศษให้ตะกุยน้ำได้ โดยน้ำจะถูกดันไปข้างหลัง พอน้ำเข้ามาครึ่งตัวถัง รถก็จะลอยขับเคลื่อนในน้ำได้

ความต่างของรถไฟฟ้ากับรถใช้น้ำมันคือ รถน้ำมันใช้ออกซิเจนในการเผาไหม้ ถ้าโดนน้ำก็จะมีปัญหา แต่รถไฟฟ้าไม่ต้องกลัวเครื่องยนต์ดับในน้ำ การออกแบบและวางระบบที่ป้องกันไม่ให้น้ำโดนสายไฟข้างใน เครื่องจะไม่ดับ ทำให้ใช้ในน้ำได้ โดยพลังงานไฟฟ้านั้นจะชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่ ซึ่งในรถบรรจุไว้ 4 ก้อน บริเวณใต้เก้าอี้ 4 ที่นั่ง การขับขี่หากไม่เปิดแอร์วิ่งได้ 150 กิโลเมตร แต่ถ้าวิ่งระหว่างเปิดแอร์วิ่งได้ 100 กิโลเมตร และความที่รถออกแบบไว้กรณีน้ำท่วมฉับพลันกะทันหัน จึงมีการติดตั้งชุดปฐมพยาบาลไว้ในรถด้วย

สำหรับรถคันที่นายกรัฐมนตรีทดลองขับเป็นการออกแบบรถรุ่นสองแล้ว รุ่นนี้มอเตอร์ติดตั้งอยู่ที่ล้อ เมื่อกดคันเร่งที่พวงมาลัย ก็จะส่งกำลังตรงมาที่ล้อให้ขยับทันที แต่ละล้อจะมีการติดตั้งระบบกันสั่นสะเทือนแบบพิเศษ เพราะยิ่งรถเล็กการสั่นสะเทือนก็ยิ่งมาก จึงต้องติดตั้งแบบเน้นลดการสั่นสะเทือน

สำหรับการชาร์จไฟฟ้านั้นใช้เวลา 6 ชั่วโมง เพื่อให้แบตเตอรี่เต็ม ซึ่งรถต้นแบบรุ่นสองนี้เอง ที่ถือเป็นรถเมดอินไทยแลนด์ เพราะมีแผนอยากจะผลิตในบ้านเรา จำหน่ายราคา 300,000-400,000 บาท และไอเดียการสร้างรถให้มีระบบสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกนี้ ทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซียก็กำลังให้ความสนใจ โดยวาดหวังจะให้ไทยเป็นฐานการผลิตเช่นกัน

FOMM มีความหมายว่า First One Mile Mobility เป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่ออยากจะให้เป็น Mobility ใช้เดินทางในระยะทางสั้นๆ สำหรับการเดินทางไปในที่ไม่ไกลจากบ้านนัก เช่น จากบ้านไปสถานีรถไฟฟ้า จากบ้านไปที่จอดรถ

FOMM Concept One Phase II เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในโลก มิติตัวถังมีขนาดยาวเพียง 2,499  มิลลิเมตร กว้าง 1,292 มิลลิเมตร และสูง 1,554 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวถังอยู่ที่ 459 กิโลกรัมเท่านั้น มีขนาด 4 ที่นั่ง สามารถเคลื่อนที่ด้วยการลอยน้ำเมื่อเกิดน้ำท่วม ด้วยอุปกรณ์ Water Jet และมีฟังก์ชั่นป้องกันความเสียหายจากน้ำ ควบคุมคันเร่งด้วยมือ และใช้ FF In-wheel motor ขับเคลื่อนด้วย Li-ion แบตเตอรี่ชนิด Cassette ที่ถอดออกได้

สามารถชาร์จไฟแบบทั่วไป และเมื่อแบตเตอรี่อ่อนลงก็สามารถเปลี่ยนแล้ววิ่งได้ทันที ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุด 150 กิโลเมตร และในเวลาฉุกเฉินยังสามารถแล่นอยู่บนน้ำได้เป็นระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร โดยตัวถังของรถนั้นมีขนาดเล็ก ประตูสามารถเลื่อนได้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้หมดกังวลกับการเข้าซอยแคบๆ และไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเปิดประตูขึ้นลง ส่วนที่ล้อยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์ระบายความร้อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ที่ดุมล้อได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม Fomm CONCEPT One ไม่ได้เป็นรถที่ถูกพัฒนาขึ้นใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะบริษัทผู้ผลิตบอกว่ารถไฟฟ้ารุ่นนี้เหมาะสมในการใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

ขณะนี้กำลังพัฒนาไปสู่การผลิตร่วมกับบริษัทคู่ค้าในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ได้จัดแสดงรถพลังงานไฟฟ้า E-Tuk-Tuk ซึ่งพัฒนาโดยนักศึกษาและคณาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ TNI

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับจำนวนของสถานีชาร์จไฟฟ้าในไทยที่ยังไม่เพียงพอต่อความมั่นใจในการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์นั้น ขณะนี้หน่วยงานภาครัฐกำลังจัดทำนโยบายให้ชัดเจนในเรื่องการติดตั้งสถานีประจุไฟฟ้าตามที่รัฐกำหนดเพิ่มเติมให้เพียงพอภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยใช้งบประมาณลงทุน 76 ล้านบาท เป็นความหวังว่าจะสามารถดันรถยนต์ไฟฟ้าไทยไปถึงฝั่งฝันได้

แบบนี้ก็เชื่อได้ว่า อีกไม่นานในบ้านเราคงมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกใช้อย่างแน่นอน เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เลย