เช็กลิสต์ 5 สิ่งที่ต้องทำ ก่อนเซ็น “ตรวจรับโอนคอนโดฯ”

เช็กลิสต์ 5 สิ่งที่ต้องทำ ก่อนเซ็น “ตรวจรับโอนคอนโดฯ” 

เว็บไซต์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แชร์บทความน่ารู้ เกี่ยวกับการตรวจรับคอนโดฯ 5 ข้อ ที่เจ้าของมือใหม่ต้องรู้ก่อนเซ็นรับ โดยเช็กลิสต์ที่ต้องทำ มีดังนี้


1.เตรียมอุปกรณ์ 
เนื่องจากในการตรวจรับโอนคอนโดฯ ต้องมีการเช็กหลายส่วนงาน การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม สำหรับตรวจทุกส่วนงานจึงถือเป็นเรื่องสำคัญมาก มีอุปกรณ์หลักๆ ที่ต้องเตรียม ได้แก่

– กล้องถ่ายรูป/กล้องมือถือ  :  ใช้ถ่ายรูปทุกอย่างเป็นหลักฐานอย่างละเอียด

– โพสต์-อิท/กระดาษจด  :  ใช้สำหรับจดรายละเอียด และแปะจุดที่ต้องการให้ซ่อมก่อนรับโอน

– ตลับเมตร  :   ใช้ตรวจวัดพื้นที่ส่วนต่างๆ

– ลูกแก้ว  :   ใช้ตรวจสอบความลาดเอียงของพื้น

– ถังน้ำ  :  ใช้ราดน้ำทดสอบความลาดเอียงของระเบียงและห้องน้ำว่าจะทำให้น้ำสามารถไหลลงท่อได้หรือไม่

– เหรียญ  :  ใช้เคาะพื้นหรือกระเบื้องว่ามีจุดไหนที่กลวงผิดปกติหรือไม่

– อุปกรณ์ไฟฟ้า/สายชาร์จแบตฯ  :  ใช้ตรวจสอบปลั๊กไฟ

2.ตรวจงานพื้น ผนัง ประตูหน้าต่าง และเพดาน

ถือเป็นงานกลุ่มแรกที่สามารถตรวจได้ เพราะปัญหาหลายๆ ส่วนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขณะเดียวกัน ก็มีงานบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มักมีปัญหาอยู่เสมอ งานกลุ่มนี้มีจุดที่ต้องตรวจเช็กหลักๆ คือ

– งานพื้น กรณีเป็นลามิเนต ตรวจสอบว่าพื้นบวมหรือมีจุดไหนที่เคาะแล้วเป็นโพรงหรือไม่ ติดตั้งได้เท่ากัน ไม่มีตรงไหนที่เดินแล้วสะดุด ใช้ลูกแก้วตรวจสอบดูว่าปูได้เสมอกัน ไม่มีส่วนไหนเป็นหลุมหรือลาดเอียง กรณีกระเบื้องระเบียงและห้องน้ำ ให้ตรวจสอบว่าเมื่อเทน้ำราดพื้นแล้ว น้ำสามารถระบายได้ดีและรวดเร็วหรือไม่ ที่สำคัญเทน้ำราดพื้นแล้วต้องไม่มีน้ำขัง

– งานผนัง ตรวจสอบรอยฉาบว่าทำได้เรียบหรือไม่ มีรอยร้าวตรงไหน สีที่ทานั้นทาได้สม่ำเสมอหรือเกิดรอยด่างตรงไหน เป็นสีตามแบบที่กำหนดหรือไม่ กรณีเป็นวอลเปเปอร์ ให้ลองไล่ลูบผนังดูเพื่อตรวจสอบภายในว่าฉาบผนังเรียบหรือไม่ ติดวอลเปเปอร์เนียนแล้วหรือยัง และดูว่าวอลเปเปอร์มีรอยฉีกขาดหรือรอยต่อตรงไหนที่ทำได้ไม่ดีหรือไม่ บัวเชิงผนังก็ต้องมีความต่อเนื่อง กรณีผนังกระเบื้องในห้องน้ำ ต้องตรวจสอบด้วยการเคาะเหรียญว่าปูเต็มแผ่น ไม่มีเสียงกลวงด้านใน

– งานประตูหน้าต่าง ตรวจสอบตั้งแต่การเปิดปิดปกติ ว่าสามารถเปิดปิดได้สนิทโดยไม่มีเสียงดัง ปัญหาฝืด เอียง ตรวจสอบลูกบิดว่ายึดกับประตูแน่น ตรวจสอบบานพับ ตรวจสอบกลอนประตูหน้าต่าง ตรวจสอบกระจกบานเลื่อนว่าไม่มีรอยร้าว และสามารถเลื่อนได้โดยไม่ฝืดหรือตกราง และดูว่ามีสีทาเลยมาโดนประตูหน้าต่างหรือไม่

– งานเพดาน ตรวจสอบความสูงจากพื้นถึงเพดานว่าเป็นไปตามที่ระบุในสัญญาหรือไม่ ตรวจสอบระดับฝ้าว่าไม่มีรอยแตกร้าว หรือสีด่าง คราบน้ำที่มาจากการรั่วซึมของห้องด้านบน

3.ตรวจระบบน้ำและสุขาภิบาล

เป็นระบบที่หากไม่ตรวจให้ดี ชีวิตจะพังพินาศ เพราะมักจะกระทบกับเรื่องสุขอนามัย ดังนั้นนอกจากจะตรวจเช็กห้องน้ำผ่านงานพื้นและผนังแล้ว ยังต้องตรวจสอบระบบน้ำอื่นๆ ให้ครบถ้วน

– สายฉีด ฝักบัว และก๊อกน้ำทุกจุด  :  ตรวจสอบดูว่าเมื่อเปิดใช้งานพร้อมกัน แรงดันน้ำไม่ตก และน้ำไหลแรงพอทุกจุด

– อ่างซิงค์และอ่างล้างจาน :  ไม่มีรอยรั่วซึม ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และสามารถระบายน้ำได้ ไม่อุดตัน

– ระบบเครื่องทำน้ำอุ่น  :  ตรวจสอบว่าไม่รั่วและมีการติดตั้งสายดิน

– ท่อน้ำทิ้งจากเครื่องปรับอากาศ :   ตรวจสอบว่าสามารถทำงานได้ปกติ

4.ตรวจระบบไฟฟ้า

เป็นส่วนที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วย โดยมีสิ่งที่ต้องตรวจสอบหลักๆ ดังนี้

– เต้าเสียบทุกจุด  : ตรวจสอบว่าไฟทำงานได้ทุกจุดหรือไม่ โดยอาจใช้สายชาร์จแบตฯมือถือ หรือไขควงวัดไฟ

– สวิตช์ไฟทุกจุด  : ตรวจสอบว่าเปิดติดทุกจุดหรือไม่

– ระบบสัญญาณโทรศัพท์  :  ตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่

– เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แถมมา  : ตรวจดูว่าชำรุดหรือไม่ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ต้องตรวจด้วยว่าเป็นของใหม่และไม่มีเสียงดังผิดปกติ

5.ตรวจเฟอร์นิเจอร์บิลต์-อิน

เฟอร์นิเจอร์บิลต์-อินมักเป็นสิ่งที่คอนโดฯสั่งมาเป็นล็อตใหญ่ ทำให้สินค้าบางชิ้นมีโอกาสชำรุดได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตู้บิลต์-อิน ครัวบิลต์-อินต่างๆ ก็จำเป็นต้องดูว่าประกอบมาเรียบร้อย สามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่

ทั้งหมดนี้ คือเช็กลิสต์จุดที่สำคัญ ในการตรวจรับโอนคอนโดฯ สำหรับท่านใดที่รู้สึกว่าเห็นแล้วไม่อยากตรวจเอง ก็สามารถจ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญในการตรวจรับได้ โดยส่วนใหญ่ราคายังอยู่ในหลักพันบาท บวกลบตามขนาดของห้อง แต่ไม่ว่าจะตรวจเองหรือจ้างที่ปรึกษามาตรวจ ก็ต้องอาศัยความละเอียดเข้ามาช่วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่ต้องผ่อนหรืออยู่กับห้องชุดนี้ไปอีกนับสิบปีหลังโอน ก็คือตัวเรานั่นเอง