เปิดประสบการณ์ “หมอแผนไทย” ในต่างแดน ต้อง “ต่อสู้” สารพัดเรื่อง

เปิดประสบการณ์ “หมอแผนไทย” ในต่างแดน ต้อง “ต่อสู้” สารพัดเรื่อง

คุณฝ้าย- สุภาวดี เงินคำ ศิษย์เก่าวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต รุ่นที่ 7 ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  เธอผ่านการสอบใบประกอบโรคศิลปะ และถือใบประกอบโรคศิลปะ (MT) ด้าน Massage-Physiotherapy มีประสบการณ์การทำงานน่าสนใจ เมื่อปี 2015 เริ่มงานกับคลินิกกายภาพบำบัด Taiy Pradit Physical Medicine and Rehabilitation Center ในตำแหน่งผู้ชำนาญการทางด้านหัตถเวชกรรม (Manual Therapy Specialist) จากนั้นได้รับการปรับตำแหน่งเป็น Operation Manager โดยควบคุมดูแลพนักงานกว่า 50 คน และในปี 2018 ได้เริ่มงานกับคลินิก De-novu Institute ในตำแหน่ง Head of Therapist ซึ่งยังลงมือทำหัตถการรักษาคนไข้ และควบคุมดูแลพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา 5 ปี ทำให้คุณฝ้าย เล็งเห็นถึงความต้องการบุคลากรด้านสุขภาพ ที่มีการขยายตัวมากขึ้น และมีโอกาสการทำงานในต่างประเทศของคนไทย และตระหนักถึงบุคลากรรุ่นหลังที่มีความสนใจในการทำงานต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ความต้องการบุคลากรหัตถเวชกรรมไทยในตลาดโลกค่อนข้างสูง แต่ส่วนใหญ่มักถูกนำพาให้ทำงานในที่ที่ไม่ใช่คลินิก และสร้างภาพลบให้กับบุคลากร รวมถึงภาพรวมของการนวดไทย

หลังจากนั้น เธอจึงจัดตั้งบริษัท สำหรับอบรมและพัฒนาบุคลากรไทย ชื่อ LAPA The Health Hub Training Academy ขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถด้านหัตถเวชกรรมเชิงสากล และนำไปสู่การสอบใบประกอบโรคศิลปะในต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาความสามารถทางด้านภาษา การสื่อสาร บุคลิกภาพ และเพิ่มโอกาสในการทำงานต่างประเทศ

ล่าสุด วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้ร่วมกับ LAPA The Health Hub Training Academy จัดทำหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อเป็นการยกระดับผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเข้าสู่การทำงานด้านสุขภาพในระดับนานาชาติ

คุณฝ้าย- สุภาวดี เงินคำ

คุณฝ้าย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า  ตั้งแต่ทำงานในดูไบ มีโอกาสได้ช่วยคนที่ถูกเอเยนซี่หลอกมาทำงาน กระทั่งช่วยหางานใหม่ให้ เลยได้รู้ว่า จริงๆ แล้วความต้องการของตลาดสายอาชีพวิทยาศาสตร์สุขภาพในดูไบนั้นมีมาก ทั้งยังระบุด้วยว่าต้องการคนไทย แต่คนไทยไม่ค่อยทราบ เพราะติดปัญหาทางด้านภาษา ทำให้ไม่กล้า ไม่มีความมั่นใจ ส่วนใหญ่จึงถูกเอเยนซี่หลอกไปทำงานร้านนวดผิดกฏหมายบ้าง ลอยแพทิ้งบ้าง

เธอเลยเกิดความคิดว่า ทำไมถึงไม่เปิดโอกาสให้รุ่นน้องหรือคนที่สนใจได้มาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ได้การงานที่ดี ได้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ดูบ้าง และจะดีแค่ไหนถ้าคนทั้งโลกจะให้ความเชื่อถือการรักษาแบบไทยมากขึ้น เลยเปิดคอร์สอบรมขึ้นมา เน้นทั้งศาสตร์ของต่างประเทศจากประสบการณ์ในการทำงาน ผสมผสานกับแพทย์แผนไทยที่เรียนมา เสริมด้วยทักษะทางภาษา เพื่อสร้างบุคลากรที่ครบทั้งทักษะภาษาและความรู้ พร้อมที่จะไปทำงานต่างประเทศได้อย่างสวยงาม

 

เมื่อถามถึง หัวใจสำคัญของการทำงานด้านการแพทย์แผนไทย คุณฝ้าย บอก  ต้องมั่นใจว่าตัวเองรักและภูมิใจในสิ่งที่ทำก่อนเพราะจะส่งผลถึงผลงาน แน่นอนว่างานทุกอย่างมีปัญหา มีความยาก แต่ถ้ารักมันจริงๆ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

“ตั้งแต่อยู่ที่ดูไบ ต่อสู้มาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของอาชีพ คำดูถูก การไม่ให้เกียรติ แต่สิ่งที่ตั้งใจ คือ ต้องทำให้ทุกคนเชื่อว่าแพทย์แผนไทย การนวดไทย เป็นสิ่งที่สูงค่าและมีประโยชน์ในการรักษา ไม่แพ้การแพทย์แบบอื่น พยายามยกระดับตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ สอบ Medical license ทำงานในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้เขารู้ว่าเราเป็นหมอ เชื่อถือได้ คนไข้ที่เจอแต่ละวันก็ตั้งใจรักษาและดูแลเป็นอย่างดี จนคนไข้ประทับใจในสิ่งที่เราทำและผลการรักษาที่ได้รับ หลังๆ ไม่ค่อยรับคนไข้เพราะเป็น Manager รับเฉพาะคนไข้เก่าหรือคนไข้เก่าแนะนำมา บางคนไม่ได้เป็นอะไร ถือกาแฟมาหาเรา แค่อยากมาคุยเฉยๆ ก็มี กลายเป็นความผูกพัน” คุณฝ้าย เล่า ก่อนหัวเราะร่วนส่งท้าย