ขึ้นปีหม่ วางแผนก่อนป่วย ตรวจเจ้าเรือนเชิงลึก พยากรณ์โรคจากธาตุทั้ง 4

ขึ้นปีใหม่ วางแผนก่อนป่วย ตรวจเจ้าเรือนเชิงลึก พยากรณ์โรคจากธาตุทั้ง 4

พท.ป.พัชญา ขำสอาด แพทย์แผนไทยประยุกต์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า อภัยภูเบศร เดย์ สปา กำลังปรับการให้บริการดูแลสุขภาพเชิงลึก โดยใช้ภูมิปัญญาการตรวจเจ้าเรือน ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ดูส่วนประกอบธาตุทั้ง 4 (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ในร่างกายคนเรา ที่จะมีสัดส่วนแต่ละธาตุไม่เท่ากัน จึงทำให้มีรูปร่าง หน้าตา ลักษณะ อุปนิสัย แตกต่างกันออกไป

และเมื่อธาตุบกพร่อง หย่อน หรือพิการ ก็จะทำให้ป่วย แต่การ “ตรวจเจ้าเรือน” คือ การพยากรณ์โรคเชิงลึก โดยตรวจจากธาตุ และพื้นฐาน วัน เดือน ปี เกิด เทียบกับปฏิทินร้อยปี แล้วนำมาแปรผลว่าแต่ละคนมีสัดส่วนของธาตุในร่างกายอะไรบ้าง

ซึ่งจะสามารถจับจุดได้เลยว่า ตัวเองเป็นธาตุอะไร มีจุดบกพร่องของร่างกายที่อวัยวะหรือระบบไหน สามารถบอกได้เลยว่า ธาตุนี้อวัยวะไหน ระบบไหน ที่มักบกพร่อง ก็จะมีอาการตามที่ธาตุนั้นบกพร่อง จากนั้นจะสามารถจ่ายยาตามอาการ ควบคู่กับการซักประวัติด้วย ซึ่งจะเป็นการดูแลสุขภาพเชิงลึกมากขึ้นซึ่งเป็นได้ทั้งเตรียมการป้องกันและรักษาไปในตัว

พท.ป.พัชญา ขำสอาด แพทย์แผนไทยประยุกต์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การแปรผลค่อนข้างจะตรง เช่น มีอาการตอนเด็ก แต่พอโตมาแล้วหาย ไม่ได้หมายความว่าหายจากโรค แค่อาการยังไม่กำเริบ หรือบางคนไม่มีอาการเลย แต่ต่อมามีอาการในอนาคต นั่นหมายความว่า ทุกคนมีธาตุที่เป็นจุดอ่อนหรือจุดบกพร่องอยู่ในร่างกาย ดังนั้น จึงต้องตรวจและซักประวัติไปด้วยเพื่อทราบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

“จุดบกพร่อง คือ ตอนเราเกิดร่างกายถูกสร้างมาจากธาตุ จากนั้นจะดูเชิงลึกว่า ธาตุไหนที่บกพร่อง หรือเป็น จุดบกพร่องในร่างกาย ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตในอนาคต แต่ตัวที่จะมากระตุ้นให้จุดบกพร่องกำเริบ หย่อน หรือ พิการ เกิดโรคได้ง่าย คือ สิ่งแวดล้อม ได้แก่ การกิน พฤติกรรม” พท.ป.พัชญา กล่าว

สำหรับการตรวจแบบ ตรวจเจ้าเรือน นั้น พท.ป.พัชญา กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ต้องใช้ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการแปรผล ซึ่งโดยปกติ การให้บริการจะแยกเป็น 2 ระบบคือ ระบบแรกคือการรักษา คือ คนที่เข้ามามักจะมีความผิดปกติของธาตุ ทำให้แสดงออกมาในรูปแบบของอาการต่างๆ แล้วเขาใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ แพทย์แผนไทยจะรักษาด้วยการจ่ายยา ทำหัตถการ และวางแผนการรักษา

ส่วนระบบที่ 2 คือ การให้บริการเชิงเวลเนสที่สปาใช้ คือ คนที่มาใช้บริการไม่จำเป็นต้องมีอาการแสดงออก แค่มาเช็กร่างกาย ว่ามีจุดบกพร่องอะไร จะเป็นลักษณะของการป้องกัน ส่งเสริม หรือรักษาร่วมด้วยได้ แบ่งการบริการเป็น 3 อย่าง คือ

ทำหัตถการต่างๆ จะมีตั้งแต่ อบ อาบ แช่ นวด แล้วแต่ความเหมาะสมของธาตุ ในเรื่องของผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ หรือจ่ายยา กรณีมีความจำเป็น และ คือการให้คำแนะนำในการรับประทานอาหารให้เป็นยา การออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี มีธาตุที่สมดุล ร่างกายก็จะเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม พท.ป.พัชญา ย้ำว่า ถ้ามีปัจจัยกระตุ้นอีก สามารถเป็นได้อีก ดังนั้น หากใครต้องการดูแลสุขภาพสามารถตรวจเป็นประจำทุกปีได้ ซึ่งตามภูมิปัญญาสมัยก่อน จะมีการตรวจธาตุประจำปี เพื่อดูสัดส่วน และคูณยาในตำรับ ซึ่งสมุนไพรในตำรับมีสัดส่วนที่แตกต่างกันไป

เช่น “ยาเบญจกูล” ที่กำหนดให้รับประทานปีละครั้ง และต้องมีการ คูณธาตุ คูณยา ปรับสัดส่วนของสมุนไพรในตำรับให้เหมาะสำหรับบุคคล เข้าไปปรับธาตุในร่างกาย ให้อยู่ในภาวะปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่หมอพื้นบ้านก็ใช้กันสืบต่อกันมาในการรักษา

สำหรับการให้บริการนั้น พท.ป.พัชญา กล่าว จะเปิดให้บริการต้นเดือนธันวาคม 2565 ช่วงแรกจะเป็นการให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มคนรักสุขภาพ จะมีหัตถการและตรวจธาตุเชิงลึก และจะนำพวกศาสตร์องค์ความรู้ของแผนไทยมาทำให้พรีเมี่ยมมากขึ้น เช่น การกักน้ำมัน ช่วยในเรื่องของผู้ป่วยที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง และแห้ง เราก็จะใช้ตัวของน้ำมันเข้าไปกัก เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น

ลดอาการปวด ลดอาการทางกล้ามเนื้อ และยังมีในส่วนของการ นาบยา แช่ยา ที่จะพัฒนาเพิ่มเติมด้วย โดยเราจะเน้นให้การรักษาแบบผ่อนคลาย ได้ทั้งสุขภาพ และสบายตัว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่เดินทางมาพักผ่อน ท่องเที่ยว และมาใช้บริการ

นอกจากนี้ ผู้ที่มาใช้บริการ จะได้เรียนรู้ถึง การรับประทานอาหารเป็นยา เนื่องจากปีนี้อภัยภูเบศร มีโครงการ “โคก หนอง นา” เพื่อความมั่นคงทางยาและอาหาร หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทางครัวอภัยภูเบศร ก็จะไปเก็บผักมาปรุงเป็นอาหาร

และถ้าคนมาเที่ยว จะเห็นต้นจริง และได้เรียนรู้ถึงสรรพคุณของพืชผักสมุนไพรแต่ละชนิด ที่หยิบจับมาเป็นเมนูอาหารเป็นยาได้ด้วย และในอนาคต จะมีการพัฒนาเป็นหลักสูตรในการฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการสปา คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ ต้นปี 2566