ฝุ่นพิษภาคเหนือวิกฤต! เกินค่ามาตรฐาน ยกเลิกเที่ยวบินแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่-เชียงรายอ่วม

ฝุ่นพิษภาคเหนือวิกฤต! เกินค่ามาตรฐาน ยกเลิกเที่ยวบินแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่-เชียงรายอ่วม

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. กรมควบคุมมลพิษ รายงานค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อเวลา 07.00 น. วัดได้ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 187 ต่อมาเวลา 09.00 น. วัดได้ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าคุณภาพอากาศ 192 ต่อมาเวลา 10.00 น. วัดค่าได้ 89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 197 โดยค่าปริมาณฝุ่นละอองพิษเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด

ด้านสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส ได้แจ้งยกเลิกเที่ยวบิน เส้นทาง เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ เที่ยวบินที่ PG351 และ PG352 เวลาตามตารางบิน ถึงสนามบินแม่ฮ่องสอน 10.05 น. ออกจากสนามบินแม่ฮ่องสอน 10.35 น. สาเหตุเนื่องจากมีหมอกปกคลุมท่าอากาศยานหนาทึบ ทัศนวิสัยลดเหลือเพียง 3,000 เมตร จากปกติเครื่องบินแบบ ATR-72 ต้องใช้ทัศนวิสัยในการบินไม่ต่ำกว่า 6,000 เมตร

สำหรับจุดความร้อนประจำวันที่ 12 มีนาคม 2562 จากดาวเทียมระบบเวียร์ (VIIRS) รอบเวลา 01.36 และ 03.12 -ไม่พบจุดความร้อน – รอบเวลา 01.30 พบจุดความร้อน 64 จุด ได้แก่ อ.แม่สะเรียง 11 จุด อ.สบเมย 1 จุด อ.ขุนยวม 6 จุด อ.ปาย 22 จุด อ.ปางมะผ้า 9 จุด อ.เมือง 15 จุด

ด้านนายจีรศักดิ์ ทิพยวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตรวจสอบไฟป่าและดับไฟ บริเวณห้วยมะติน และห้วยไม้ตุ้ม พบพื้นที่เสียหายเป็นวงกว้าง เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ เสร็จสิ้นภารกิจและสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะที่พื้นที่อื่นๆ มีการเข้าไปดับไฟป่า อย่างต่อเนื่อง บางแห่งมีไฟไหม้ป่าเสียหายอย่างหนักหลายร้อยไร่

นายจีรศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่า ที่ยังคงหนักเพิ่มมากขึ้นทุกวันและส่งผลให้หมอกควันไฟป่า ปกคลุมทั่วจังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้านชุดเหยี่ยวไฟ จากกรมป่าไม้ ได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวนไปทำการดับไฟป่า อย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนธิกำลังกับหน่วยในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ฝ่ายปกครอง ราษฎร จิตอาสา เข้าทำการดับไฟทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุไฟป่า และการรับแจ้งจุดไฟป่าจากดาวเทียม

ขณะที่สภาพอากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่าฝุ่นละอองและหมอกควันปกคลุมทั่วไปทั้งฝั่ง อ.แม่สาย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีความหนาแน่นมากกว่าเดิม

เมื่อตรวจคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศจากบริเวณสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย พบว่า ช่วงเช้ามีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าพีเอ็ม 10 วัดได้ 193 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันเป็นวันที่ 2

ส่วนเขต อ.เมืองเชียงราย ซึ่งห่างจากชายแดนเข้ามาประมาณ 60 กิโลเมตร ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบโดยค่าพีเอ็ม 2.5 วัดได้ 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพีเอ็ม 10 วัดได้ 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่า จ.เชียงราย ยังประกาศใช้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จ.เชียงราย ปี 2561-25562 ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย. โดยห้ามไม่ให้มีการเผาใดๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด จนทำให้ค่าความร้อนหรือฮอตสปอตเกิดขึ้นในพื้นที่น้อยมาก แต่พบว่าตามตะเข็บชายแดนยังคงพบมีการเผาป่าและพื้นที่ทางการเกษตรในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยช่วงค่ำวันที่ผ่านมาพบมีการเผาบริเวณป่าห่างจากชายแดนตรงกันข้ามบ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยสามารถสังเกตเห็นกลุ่มควันได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นหรือทีบีซีฝ่ายไทย ได้มีการประสานขอความร่วมมือไปยังทีบีซีฝ่ายประเทศเมียนมาเพื่อขอให้มีการดูแลการเผาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องแล้ว

พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง และประธานทีบีซีฝ่ายไทย กล่าวว่า ทางศูนย์ประสานงานทีบีซีทางฝ่ายไทยก็ได้มีการประสานขอความร่วมมืออย่างต่อเนื่องซึ่งก็ได้มีการรับปากว่าจะเร่งดำเนินการป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านให้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศแล้ว