| ผู้เขียน | วินดี้ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เฮลท์คิทเช่นทุกคน พูดถึงเมนูปลาย่าง
ปลาชนิดแรกที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่นึกถึงน่าจะเป็นแซลมอน ที่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับใครหลายๆ คน เนื่องจากประโยชน์ของปลาแซลมอนนั้น นอกจากคอเลสเตอรอลต่ำ มีไขมันดี อย่างไขมันโอเมก้า-3 ที่สูงกว่าปลาชนิดอื่นๆ และยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย
วินมั่นใจว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะชอบทานแซลมอนแบบปลาดิบซาซิมิสดๆ แน่นอนเพราะวินก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะว่าทานซาซิมิเนี่ยมีผลกระทบทางอ้อมต่อสุขภาพเราด้วยนะคะ
สำหรับคนที่ทานซาซิมิแล้วมีนิสัยติดทานคู่กับน้ำจิ้มในปริมาณมากๆ เสี่ยงเป็นโรคไตนะคะ ซาซิมิ 1 ชิ้น วินจำได้ว่าตัวเองจุ่มซอสซะชุ่มเลยทีเดียว ลืมรสชาติหวานๆ ของปลาดิบไปเลย
เมนูในวันนี้ วินขอชวนเพื่อนๆ มาปรุงแซลมอนให้สุกแล้วเพิ่มรสชาติให้ปลาของเรากลมกล่มดีต่อสุขภาพกันค่ะ honey-grazed salmon ชื่อก็บ่งบอกแล้วนะคะ ว่าเราจะใช้น้ำผึ้งมาช่วยเพิ่มรสชาติให้ปลา แต่เราไม่ได้มีแค่นั้นค่ะ จากส่วนผสมด้านล่างต่อไปนี้จะเห็นว่ามีมัสตาร์ดมาช่วยเพิ่มรสชาติไม่ให้ซอสหวานเลี่ยนจนเกินไปด้วยนะคะ
ส่วนผสม
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
มัสตาร์ดแบบโฮลเกรน 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
แซลมอน 2-4 ชิ้น
ผักสลัด
บีทรูท
ถั่วพิสตาชิโอ
*ผักสลัดและบีทรูท ใส่ปริมาณตามใจชอบ และถั่วพิสตาชิโอใส่โรยพอคลุกเคล้ากับสลัด
วิธีทำ
- เริ่มจาก นำน้ำผึ้ง มัสตาร์ด ซอสถั่วเหลือง และน้ำตาล คลุกให้น้ำตาลละลาย แล้วราดบนแซลมอนให้ทั่ว จากนั้นปิดแซลมอนด้วย wrap ใส หรือใส่กล่องแล้วนำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้สักครู่ให้เนื้อปลาชุ่มน้ำซอส
- ตั้งกระทะกริลล์บนไฟแรง ใช้ถาดอบ วางปลาแซลมอนบนแผ่นฟอยล์แล้วนำไปย่างบนกระทะจนสุก หรือเพื่อนๆ สามารถย่างปลาบนกระทะธรรมดาก็ได้ค่ะ แต่ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง ไม่ให้เนื้อปลาและหนังไหม้ก่อนที่เนื้อข้างในจะสุกค่ะ
- จากนั้น mix salad กับถั่วพิสตาชิโอ และบีทรูท ราดด้วยน้ำสลัด ผสมจากวิเนก้า น้ำมันงา มัสตาร์ด และน้ำผึ้งค่ะ
- วางเนื้อปลาแซลมอนด้านบน ทานคู่กันกับสลัดและถั่วพิสตาชิโอ้
เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะเมนูปลาของเราครั้งนี้ ซึ่งเฮลท์คิทเช่นขอแนะนำเพื่อนๆ ที่สนใจรักสุขภาพทุกคน ให้ทานอาหารเมนูปลา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 มื้อค่ะ
ไม่แนะนำให้ทานแต่เนื้อสัตว์อย่างใดอย่างหนึ่งตลอดนะคะ เพราะการได้รับสารอาหารใดมากเกินไป และขาดสารอาหารบางชนิด ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพค่ะ ทานอาหารให้เพียงพอ และสมดุล พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ นะคะ
