“แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป” สูตรอีสานแท้ เก็บได้นาน ตอบโจทย์คนไทยไกลบ้าน

“แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป” สูตรอีสานแท้ เก็บได้นาน ตอบโจทย์คนไทยไกลบ้าน

แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป – หน่อไม้ หน่ออ่อนไผ่ที่แตกเหง้ามาจากใต้ดิน สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารทานได้หลากหลายแบบ ปัจจุบันหน่อไม้เป็นสินค้าล้นตลาด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้หลายๆ ราย ต่างหาวิธีต่อยอด เปลี่ยนวัตถุดิบที่มีอยู่ในมือให้สามารถสร้างรายได้ได้

คุณอิ๋ว-จารุณี เสนารัตน์ วัย 42  ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่มีไอเดียต่อยอดหน่อไม้ธรรมดา ให้มีมูลค่าเพิ่ม โดยการแปรรูปเป็น “แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ ภูฟาร์ม” ผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่รางวัลโปรดักต์แชมเปี้ยน ปี 2019 จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาครอง

คุณอิ๋ว-จารุณี เสนารัตน์ วัย 42 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรุ่นใหม่ อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์

คุณอิ๋ว กล่าวว่า แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ภูฟาร์ม เป็นสินค้าพร้อมปรุง หรือพร้อมแกง ที่ประกอบไปด้วย หน่อไม้ เห็ดหูหนู ผัก เครื่องปรุง รวมอยู่ในซองเดียว รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องแกงหน่อไม้ สูตรอีสานแท้ๆ แต่ไม่ใส่ผงชูรส เป็นสินค้าที่มีตรา อย. รับรองโดยที่มาของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เกิดจากปัญหาหน่อไม้สดเริ่มล้นตลาด เธอจึงเกิดไอเดียแปรรูปหน่อไม้ธรรมดา ให้กลายเป็น “หน่อไม้ดอง” เพื่อแก้ปัญหาสินค้าล้นตลาด อีกทั้งยังเป็นวิธีการถนอมอาหารจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อให้ลูกหลานที่อยู่ไกลบ้านได้รับประทานอาหารพื้นถิ่น

แต่ข้อเสียของการดองด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านนี้ คือผลิตภัณฑ์อยู่ไม่ได้นาน จึงเปลี่ยนวิธีการถนอมอาหารใหม่ ด้วยการนำหน่อไม้มาตากแห้งก่อนแล้วจึงนำไปแปรรูป แต่ก็สามารถเก็บไว้ได้นานสุดเพียง 2-3 เดือนเท่านั้นซึ่งเธอกล่าวว่า ยังเป็นระยะเวลาที่เก็บได้ไม่นานพอ จึงนำเรื่องไปปรึกษากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น สสว.และอุตสาหกรรมภาค 5 ขอนแก่น เพื่อพัฒนาการทำหน่อไม้ดองให้เก็บได้นานขึ้น ด้วยการต้มให้สุก ก่อนนำมาตากแห้ง จึงจะสามารถเก็บได้นานขึ้น

และนำมาเพิ่มมูลค่าต่อ ด้วยการแปรรูปเป็นแกงหน่อไม้ โดยใส่ “ผงนัว” เครื่องปรุงของแกงหน่อไม้ในท้องถิ่นที่หาได้ตามสวนของชาวบ้าน นำมาแปรรูปให้มีความแห้งทั้งหมด โดยใช้นวัตกรรม “โซลาร์โดม” ตามคำแนะนำจากศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการตากหน่อไม้ ทำให้ช่วยเก็บเนื้อของหน่อไม้ให้สวย ในการตากไม่มีเชื้อราจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์แกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูป ที่สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี

“เราอยากพัฒนาตัวสินค้าตั้งแต่ต้น กลาง และปลายน้ำ ต้นน้ำคือต้องทำเกษตรอินทรีย์จริงๆ ผลิตปุ๋ยเอง กลางน้ำ คือ ถ้าเขามั่นใจสินค้า ความต้องการของลูกค้าก็จะมีมากขึ้น และปลายน้ำ คือ จะมีตัวแทนกระจายสินค้า โดยตั้งใจจะส่งออกด้วย โดยเราพุ่งเป้าไปที่คนไทยในต่างแดน เพราะคนสมัยนี้ ก็มีลูกหลานไปอยู่ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก คนไกลบ้านกินแล้วจะได้หายคิดถึงบ้าน ตอนนี้ก็กำลังพัฒนาสินค้า จากใส่ปลาร้าผสมลงไปในผงนัว ก็เปลี่ยนมาใช้เต้าหู้แทน เพื่อคนกินเจจะได้กินได้ ” คุณอิ๋ว กล่าวมาอย่างนั้น

นอกจากแกงหน่อไม้กึ่งสำเร็จรูปแล้ว ทางกลุ่มฯ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆจากหน่อไม้ ที่สามารถจำหน่ายนอกฤดูกาลได้ เช่น หน่อไม้ดอง และ หน่อไม้กิมซุงอบแห้งหั่นฝอย โดยหน่อไม้ตากแห้งหั่นฝอย สามารถเก็บได้นาน 3-4 เดือนด้วยกรรมวิธีการซีลที่ฝา ทำให้เก็บได้นาน 1 ปี

ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่คุณอิ๋ว ได้เริ่มทำโครงการพัฒนาสินค้ามา รายได้จากเดิม 300-400 บาทต่อวัน เปลี่ยนเป็น 20,000-30,000 บาท ต่อเดือน เธอกล่าวว่า เมื่อชาวบ้านรอบๆ เห็นว่าทำแล้วได้เงิน ก็ชักชวนกันมาปลูกหน่อไม้แบบเกษตรอินทรีย์ที่ผ่านมาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์กันมากขึ้น จนตอนนี้ ทางกลุ่มมีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ในการทำสวนปลูกหน่อไม้ สมาชิกในกลุ่มยังมีเงินปันผล และมีการประกันราคาหน่อไม้สด ทำให้ทางกลุ่มมีรายได้ไม่ขัดสน สามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัวได้

“สิ่งที่ทำให้กลุ่มเข้มแข็งได้ คือ การอดทนฟันฝ่าอุปสรรคการทำงานกับคน โดยเราต้องคิดบวกอยู่ตลอด อีกทั้งต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ  ต้องเข้มแข็ง เพียรพยายาม โฟกัสที่สินค้าใดสินค้าหนึ่งก่อน แม้ในระยะแรกๆ ชาวบ้านเขาจะไม่เห็นด้วยกับการทำเกษตรแบบอินทรีย์ มีพูดตัดกำลังใจเหมือนกัน เราเลยตั้งใจว่าจะลบคำสบประมาทนั้นให้ได้ โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวมารวมกลุ่มกันก่อน เพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่าการทำเกษตรอินทรีย์เป็นอาชีพที่ทำเงินให้เขาได้จริง แม้จะเห็นผลช้า แต่ทำแล้วปลอดภัย ทั้งคนกินคนปลูก ก็อยากให้เกษตรกรหันมาใส่ใจทำการเกษตรแบบอินทรีย์กันให้มากขึ้น” คุณอิ๋ว กล่าวทิ้งท้าย

หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เพจ บ้านสวน อุ่นไอรัก  หรือโทรศัพท์ (093)092-6907

 

เผยแพร่ครั้งแรก วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ.2562